ดัชนีดาวโจนส์ฟิวเจอร์พุ่งขึ้นเกือบ 100 จุดในวันนี้ บ่งชี้ว่าตลาดหุ้นวอลล์สตรีทจะดีดตัวขึ้นในคืนนี้ ขานรับผลประกอบการของแอปเปิล อิงค์ และตัวเลขการจ้างงานภาคเอกชนสหรัฐที่แข็งแกร่ง
ณ เวลา 19.36 น.ตามเวลาไทย ดัชนีดาวโจนส์ฟิวเจอร์บวก 94 จุด หรือ 0.35% สู่ระดับ 26,678 จุด
ราคาหุ้นแอปเปิลพุ่งขึ้นมากกว่า 5% ในการซื้อขายก่อนเปิดตลาดหุ้นวอลล์สตรีทในวันนี้ หลังเปิดเผยตัวเลขกำไรและรายได้ที่สูงกว่าการคาดการณ์ของนักวิเคราะห์
ทางด้านออโตเมติก ดาต้า โพรเซสซิ่ง อิงค์ (ADP) และมูดี้ส์ อนาลิติกส์ เปิดเผยว่า การจ้างงานของภาคเอกชนสหรัฐพุ่งขึ้น 275,000 ตำแหน่งในเดือนเม.ย. ซึ่งเป็นการเพิ่มขึ้นมากที่สุดนับตั้งแต่เดือนก.ค.ปีที่แล้ว ซึ่งขณะนั้น ภาคเอกชนมีการจ้างงานพุ่งขึ้น 284,000 ตำแหน่ง
นักวิเคราะห์คาดการณ์ก่อนหน้านี้ว่าการจ้างงานของภาคเอกชนเพิ่มขึ้นเพียง 177,000 ตำแหน่งในเดือนเม.ย.
การจ้างงานในภาคบริการเพิ่มขึ้น 223,000 ตำแหน่งในเดือนเม.ย. ซึ่งเป็นระดับสูงสุดในรอบกว่า 2 ปี ส่วนภาคการผลิตมีการจ้างงานเพิ่มขึ้น 52,000 ตำแหน่ง
ขณะเดียวกัน นักลงทุนจับตาผลการประชุมนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ในวันนี้ โดยคาดว่าเฟดจะยังคงตรึงอัตราดอกเบี้ยระยะสั้นที่ระดับ 2.25-2.50% ต่อไป แม้ถูกกดดันจากประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ให้ปรับลดอัตราดอกเบี้ยลง
ทั้งนี้ ปธน.ทรัมป์ทวีตข้อความ เรียกร้องให้เฟดปรับลดอัตราดอกเบี้ย 1% และใช้มาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE) ครั้งใหม่ ซึ่งหากเฟดมีการผ่อนคลายนโยบาย เศรษฐกิจสหรัฐก็จะพุ่งขึ้นเหมือนจรวด
"จีนกำลังกระตุ้นเศรษฐกิจ ขณะที่รักษาอัตราดอกเบี้ยไว้ที่ระดับต่ำ แต่ธนาคารกลางของเรายังคงปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอย่างไม่หยุดหย่อน แม้ว่าเงินเฟ้ออยู่ในระดับต่ำมาก และได้ใช้มาตรการคุมเข้มเชิงปริมาณ ที่จริงแล้ว เศรษฐกิจของเรามีศักยภาพที่จะพุ่งขึ้นเหมือนจรวด ถ้าเรามีการปรับลดอัตราดอกเบี้ยลง 1% และใช้มาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE) โดยเศรษฐกิจของเราขยายตัวได้ดีที่ระดับ 3.2% ในไตรมาสแรก แต่จากการที่เรามีเงินเฟ้อต่ำ เราจะสามารถทำสถิติใหม่ และลดหนี้สินของประเทศลงได้" ข้อความในทวิตเตอร์ระบุ
ทั้งนี้ เฟดได้ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 9 ครั้ง นับตั้งแต่เดือนธ.ค.2558 แต่เฟดได้ส่งสัญญาณไม่ขึ้นอัตราดอกเบี้ยตลอดทั้งปีนี้
นอกจากนี้ ตลาดยังจับตาการเปิดเผยผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียน โดยบริษัทยัม แบรนด์ส อิงค์ ซึ่งเป็นบริษัทแม่ของพิซซ่า ฮัท, เคนตั๊กกี ฟรายชิกเก้น (KFC) และทาโก เบล รายงานกำไร และยอดขายสูงกว่าคาดในไตรมาสแรก ขณะที่รายได้สอดคล้องคาดการณ์
ทั้งนี้ ยัมเปิดเผยว่า ทางบริษัทมีกำไร 82 เซนต์/หุ้น สูงกว่าตัวเลขคาดการณ์ที่ระดับ 81 เซนต์/หุ้น
นอกจากนี้ บริษัทมีรายได้ที่ระดับ 1.25 พันล้านดอลลาร์ สอดคล้องกับตัวเลขคาดการณ์
ขณะเดียวกัน บริษัทมียอดขายพุ่งขึ้น 4% สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะเพิ่มขึ้น 2.66%