ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดร่วงลงติดต่อกันเป็นวันที่ 2 เมื่อคืนนี้ (2 พ.ค.) เนื่องจากหุ้นกลุ่มพลังงานร่วงลงหลังจากราคาน้ำมันดิบ WTI ดิ่งลงกว่า 2% นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับแรงกดดันจากการที่นายเจอโรม พาวเวล ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ออกมาส่งสัญญาณว่า เฟดจะยังไม่ปรับลดอัตราดอกเบี้ยในเร็วๆนี้
ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 26,307.79 จุด ลดลง 122.35 จุด หรือ -0.46% ขณะที่ดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,917.52 จุด ลดลง 6.21 จุด หรือ -0.21% และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 8,036.77 จุด ลดลง 12.87 จุด หรือ -0.16%
ภาวะการซื้อขายในตลาดหุ้นนิวยอร์กยังคงได้รับปัจจัยลบจากการที่นายพาวเวลระบุว่า แรงกดดันด้านราคาที่ปรับตัวลงเมื่อเร็วๆนี้ อาจเกิดจาก "ปัจจัยชั่วคราว" และคาดว่า อัตราเงินเฟ้อจะดีดตัวสู่เป้าหมายของเฟดที่ระดับ 2% ในอนาคต โดยการแสดงความเห็นดังกล่าวนับเป็นการส่งสัญญาณว่า เฟดจะยังไม่ปรับลดอัตราดอกเบี้ยในเร็วๆนี้ แม้ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ พยายามกดดันให้เฟดปรับลดอัตราดอกเบี้ยก็ตาม
ดัชนีหุ้นกลุ่มพลังงานร่วงลง 1.7% หลังจากราคาน้ำมันดิบ WTI ดิ่งลง 2.8% เมื่อคืนนี้ อันเนื่องมาจากความวิตกกังวลเกี่ยวกับสต็อกน้ำมันดิบและการผลิตน้ำมันดิบของสหรัฐที่ปรับตัวสูงขึ้นในสัปดาห์ที่แล้ว โดยหุ้นเอ็กซอน โมบิล ร่วงลง 1.7% หุ้นเชฟรอน ลดลง 1.2% หุ้นเชซาพีค เอนเนอร์จี ดิ่งลง 3.7% หุ้นเดวอน เอนเนอร์จี ร่วงลง 2.9% หุ้นมาราธอน ปิโตรเลียม ดิ่งลง 2.1% หุ้นอ็อคซิเดนเชียล ปิโตรเลียม ลดลง 0.3%
หุ้นดาว อิงค์ ซึ่งเป็นบริษัทเคมีภัณฑ์ที่เพิ่งแยกกิจการออกจากดาวดูปองท์ ร่วงลง 6.1% หลังจากบริษัทเปิดเผยยอดขายในไตรมาสแรกลดลง 10%
ส่วนหุ้นดาวดูปองท์ ร่วงลง 6.7% หลังจากบริษัทเปิดเผยกำไรและยอดขายในไตรมาสแรกที่ต่ำกว่าตัวเลขคาดการณ์
หุ้นแคทเธอร์พิลลาร์ ซึ่งเป็นบริษัทผลิตเครื่องมือก่อสร้างขนาดใหญ่ที่สุดในโลก ร่วงลง 2.1% หลังจากบริษัทประกาศเพิ่มการจ่ายเงินปันผลรายไตรมาส 20% สู่ระดับ 1.03 ดอลลาร์/หุ้น
หุ้นเอวอน โพรดักซ์ ซึ่งเป็นผู้ผลิตเครื่องสำอางรายใหญ่ ดิ่งลง 10.5% หลังจากบริษัทเปิดเผยตัวเลขขาดทุนในไตรมาสแรก
หุ้นเคลล็อก ซึ่งเป็นผู้ผลิตซีเรียลและขนมขบเคี้ยว ร่วงลง 3.4% หลังจากบริษัทเปิดเผยรายได้ในไตรมาสแรกลดลง และประกาศว่าจะเปลี่ยนตัวประธานเจ้าหน้าที่บริหารด้านการเงิน
หุ้นเทสลา ดีดตัวขึ้น 4.3% หลังจากบริษัทประกาศแผนระดมทุนมูลค่า 2.3 พันล้านดอลลาร์ ผ่านการเสนอขายหุ้นสามัญและหุ้นกู้แปลงสภาพ
นักลงทุนจับตาการเปิดเผยตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรประจำเดือนเม.ย.ของสหรัฐในคืนนี้ เวลา 19.30 น.ตามเวลาไทย ขณะที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่า ตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรจะเพิ่มขึ้น 185,000 ตำแหน่งในเดือนเม.ย. หลังจากพุ่งขึ้น 196,000 ตำแหน่งในเดือนมี.ค. และคาดว่าอัตราการว่างงานจะทรงตัวที่ระดับ 3.8%
ส่วนข้อมูลเศรษฐกิจด้านอื่นๆของสหรัฐที่มีกำหนดเปิดเผยในคืนนี้ได้แก่ ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคบริการเดือนเม.ย.จากมาร์กิต และดัชนีบริการเดือนเม.ย. จากสถาบันจัดการด้านอุปทานของสหรัฐ (ISM)