ดัชนีดาวโจนส์ดิ่งลงอย่างต่อเนื่องในวันนี้ ล่าสุดทรุดตัวลงกว่า 500 จุด หลุดระดับ 26,000 จุด ท่ามกลางความตื่นตระหนกเกี่ยวกับความขัดแย้งทางการค้าระหว่างสหรัฐและจีน หลังจากที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ขู่ขึ้นภาษีต่อสินค้าจีน
ณ เวลา 01.04 น.ตามเวลาไทย ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์อยู่ที่ 25,894.86 จุด ลบ 543.62 จุด หรือ 2.06%
ดัชนีดาวโจนส์ร่วงลงต่ำกว่าระดับเส้นค่าเฉลี่ย 50 วันเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่กลางเดือนม.ค. ขณะที่หลักทรัพย์ทั้ง 30 หลักทรัพย์ที่ใช้คำนวณดัชนีต่างก็ปรับตัวลง
ดัชนีความผันผวน CBOE หรือ CBOE Volatility Index (VIX) ซึ่งเป็นมาตรวัดความวิตกของนักลงทุนในตลาด พุ่งขึ้นสู่ระดับ 21.09 ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่วันที่ 23 ม.ค.
หุ้นโบอิ้งและแคทเธอร์ พิลลาร์ร่วงลง 3.8% และ 2.4% ตามลำดับ โดยหุ้นของบริษัททั้งสองถือเป็นตัวชี้วัดสภาวะการค้าของสหรัฐ เนื่องจากมีการลงทุนจำนวนมากในต่างประเทศ
ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ขู่ขึ้นภาษีนำเข้าสินค้าจีนวงเงิน 2 แสนล้านดอลลาร์ สู่ระดับ 25% ในวันศุกร์นี้ จากเดิมที่ระดับ 10% รวมทั้งจะมีการเรียกเก็บภาษีสินค้านำเข้าจากจีนวงเงิน 3.25 แสนล้านดอลลาร์ในอัตรา 25% ในไม่ช้า
ความเคลื่อนไหวดังกล่าวมีขึ้น ขณะที่สหรัฐและจีนมีกำหนดกลับมาเจรจาการค้าอีกครั้งในวันที่ 9-10 พ.ค.ที่กรุงวอชิงตัน หลังจากที่ทั้งสองฝ่ายได้ทำการเจรจาเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมาที่กรุงปักกิ่งของจีน
นายหลิว เหอ รองนายกรัฐมนตรีจีน ซึ่งเป็นแกนนำคนสำคัญในการเจรจาการค้ากับสหรัฐ จะเข้าร่วมการเจรจาการค้าในครั้งนี้ ซึ่งทำให้มีความหวังว่าทั้งสองฝ่ายอาจบรรลุข้อตกลงทางการค้าในสัปดาห์นี้
ก่อนหน้านี้ หนังสือพิมพ์วอลล์สตรีทเจอร์นัล รายงานโดยอ้างแหล่งข่าวระบุว่า รัฐบาลจีนกำลังพิจารณายกเลิกการเจรจาการค้ากับสหรัฐที่เดิมมีกำหนดในสัปดาห์นี้ หลังปธน.ทรัมป์ขู่ขึ้นภาษีนำเข้าสินค้าจีนวงเงิน 2 แสนล้านดอลลาร์ สู่ระดับ 25%