ตลาดหุ้นลอนดอนปิดปรับตัวขึ้นเมื่อคืนนี้ (8 พ.ค.) โดยได้แรงหนุนจากข่าวที่ว่า เจ้าหน้าที่จีนมีความต้องการทำข้อตกลงทางการค้ากับสหรัฐ ขณะที่การปรับตัวขึ้นของหุ้นกลุ่มน้ำมันตามราคาน้ำมันที่ดีดตัวขึ้น หลังสหรัฐเปิดเผยข้อมูลสต็อกน้ำมันลดลงเกินคาดนั้น ได้ช่วยดันตลาดขึ้นด้วย
ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,271.00 จุด เพิ่มขึ้น 10.53 จุด หรือ +0.15%
ตลาดปรับตัวขึ้น หลังจากนางซาราห์ ฮัคคาบี แซนเดอร์ส โฆษกทำเนียบขาว เปิดเผยว่า ทางทำเนียบขาวได้รับสัญญาณบ่งชี้ว่า เจ้าหน้าที่จีนที่กำลังเดินทางมายังสหรัฐมีความต้องการที่จะทำข้อตกลงการค้ากับสหรัฐ
คำกล่าวของนางแซนเดอร์สสอดคล้องกับประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ซึ่งระบุก่อนหน้านี้ว่า เจ้าหน้าที่จีนได้แจ้งต่อทำเนียบขาวว่า พวกเขาจะเดินทางมายังสหรัฐเพื่อทำข้อตกลงทางการค้า
ทั้งนี้ ปธน.ทรัมป์ขู่ขึ้นภาษีนำเข้าสินค้าจีนวงเงิน 2 แสนล้านดอลลาร์ สู่ระดับ 25% ในวันศุกร์นี้ จากเดิมที่ระดับ 10% รวมทั้งจะมีการเรียกเก็บภาษีสินค้านำเข้าจากจีนวงเงิน 3.25 แสนล้านดอลลาร์ในอัตรา 25% ในไม่ช้า
ความเคลื่อนไหวดังกล่าวมีขึ้น ขณะที่สหรัฐและจีนมีกำหนดกลับมาเจรจาการค้าอีกครั้งในวันพรุ่งนี้ และวันศุกร์ที่กรุงวอชิงตัน หลังจากที่ทั้งสองฝ่ายได้ทำการเจรจาเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมาที่กรุงปักกิ่งของจีน
นายหลิว เหอ รองนายกรัฐมนตรีจีน ซึ่งเป็นแกนนำคนสำคัญในการเจรจาการค้ากับสหรัฐ จะเข้าร่วมการเจรจาการค้าในครั้งนี้ ซึ่งทำให้มีความหวังว่าทั้งสองฝ่ายอาจบรรลุข้อตกลงทางการค้าในสัปดาห์นี้
นอกจากนี้ ตลาดยังได้แรงหนุนจากหุ้นกลุ่มน้ำมันที่ปรับตัวขึ้นตามราคาน้ำมัน หลังสำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของรัฐบาลสหรัฐ (EIA) เปิดเผยว่า สต็อกน้ำมันดิบของสหรัฐลดลงเกินคาด 4 ล้านบาร์เรลในสัปดาห์ที่แล้ว ขณะที่นักวิเคราะห์คาดไว้ว่าอาจเพิ่มขึ้น 1.2 ล้านบาร์เรล
หุ้นบีพี บวก 0.14% หุ้นรอยัล ดัทช์ เชลล์ เพิ่มขึ้น 0.77%