ตลาดหุ้นยุโรปปิดร่วงเมื่อคืนนี้ (9 พ.ค.) โดยถูกกดดันจากความกังวลเกี่ยวกับการทำสงครามการค้าระหว่างสหรัฐและจีน หากทั้งสองฝ่ายไม่สามารถบรรลุข้อตกลงในการเจรจาการค้าในวันศุกร์นี้
ดัชนี Stoxx Europe 600 ร่วง 1.65% ปิดที่ 375.92 จุด
ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 5,313.16 จุด ร่วง 104.43 จุด หรือ -1.93% และ ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมันปิดที่ 11,973.92 จุด ร่วง 206.01 จุด หรือ -1.69% ส่วนดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,207.41 จุด ลดลง 63.59 จุด หรือ -0.87%
ตลาดปรับตัวลง โดยถูกกดดันจากข่าวที่ว่าประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ได้ขู่ขึ้นภาษีนำเข้าสินค้าจีนวงเงิน 2 แสนล้านดอลลาร์ สู่ระดับ 25% ในวันศุกร์นี้ โดยจะมีผลตั้งแต่ช่วงเที่ยงคืนตามเวลาสหรัฐ จากเดิมที่ระดับ 10% รวมทั้งจะมีการเรียกเก็บภาษีสินค้านำเข้าจากจีนวงเงิน 3.25 แสนล้านดอลลาร์ในอัตรา 25% ในไม่ช้า
ปธน.ทรัมป์กล่าวว่า จีนไม่ยอมทำตามข้อตกลงที่เคยให้ไว้ในระหว่างการเจรจาการค้าร่วมกับสหรัฐ ซึ่งเป็นสาเหตุที่ทำให้เขาประกาศขึ้นภาษีนำเข้าสินค้าจากจีน
ความเคลื่อนไหวดังกล่าวมีขึ้น ขณะที่สหรัฐและจีนมีกำหนดกลับมาเจรจาการค้าอีกครั้งในวันพฤหัสบดีและวันศุกร์นี้ที่กรุงวอชิงตัน หลังจากที่ทั้งสองฝ่ายได้ทำการเจรจาเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมาที่กรุงปักกิ่งของจีน
นอกจากนี้ นักลงทุนยังคงติดตามความคืบหน้าเกี่ยวกับการถอนตัวของอังกฤษออกจากสหภาพยุโรป (Brexit) โดยล่าสุด มีสัญญาณว่านางเทเรซา เมย์ นายกรัฐมนตรีอังกฤษ ตั้งใจที่จะจัดการลงมติข้อตกลงถอนตัวในรัฐสภาอังกฤษอีกครั้งก่อนการเลือกตั้งรัฐสภายุโรปในวันที่ 23 พ.ค.นี้ ขณะที่สมาชิกพรรรคอนุรักษ์นิยมยังคงผลักดันให้นางเมย์ประกาศวันลาออกจากตำแหน่ง
หุ้นกลุ่มธนาคารถูกกดดัน โดยหุ้นเอสเอชบีซี ลบ 0.14% และหุ้นสเวดแบงก์ ร่วง 1.44%
หุ้นดอยซ์ เทเลคอม ลบ 0.13% หลังเปิดเผยผลกำไรไตรมาสแรกลดลง 9% เมื่อเทียบเป็นรายปี