ดัชนีดาวโจนส์ฟิวเจอร์พลิกร่วงเกือบ 100 จุด หลังจากที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ระบุว่า ไม่มีความจำเป็นที่สหรัฐจะต้องเร่งเจรจาการค้ากับจีน เนื่องจากขณะนี้สหรัฐกำลังมีรายได้เพิ่มขึ้นจากการขึ้นภาษีต่อสินค้านำเข้าจากจีน
ก่อนหน้านี้ ดัชนีดาวโจนส์ฟิวเจอร์ปรับตัวอยู่ในแดนบวก ขณะที่นักลงทุนหวังว่าคณะเจรจาการค้าจากสหรัฐและจีนจะยังคงสามารถบรรลุข้อตกลงทางการค้า แม้ว่าสหรัฐได้ประกาศขึ้นภาษีต่อสินค้านำเข้าจากจีนแล้วก็ตาม
ณ เวลา 18.38 น.ตามเวลาไทย ดัชนีดาวโจนส์ฟิวเจอร์ลบ 91 จุด หรือ 0.35% สู่ระดับ 25,725 จุด
ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ทวีตข้อความในวันนี้ ระบุว่า ไม่มีความจำเป็นที่สหรัฐจะต้องเร่งเจรจาการค้ากับจีน เนื่องจากขณะนี้สหรัฐกำลังมีรายได้เพิ่มขึ้นจากการขึ้นภาษีต่อสินค้านำเข้าจากจีน
"การเจรจากับจีนยังคงดำเนินไปด้วยความน่าพึงพอใจ โดยไม่มีความจำเป็นที่สหรัฐจะต้องเร่งการเจรจา เนื่องจากขณะนี้จีนกำลังจ่ายภาษีเพิ่มขึ้นเป็น 25% ต่อสินค้าวงเงิน 2.5 แสนล้านดอลลาร์ที่นำเข้าสู่สหรัฐ เงินจำนวนมหาศาลเหล่านี้จะเข้าสู่กระทรวงการคลังสหรัฐ และเรากำลังเริ่มกระบวนการในการเพิ่มการเรียกเก็บภาษีสู่ 25% สำหรับสินค้าจีนที่เหลือวงเงิน 3.25 แสนล้านดอลลาร์" ข้อความในทวิตเตอร์ระบุ
นอกจากนี้ ปธน.ทรัมป์ยังระบุอีกว่า "ด้วยเงินภาษีกว่า 1 แสนล้านดอลลาร์ที่เราได้รับจากจีน เราจะนำเงินส่วนหนึ่งไปซื้อสินค้าเกษตรจากเกษตรกร และเราจะส่งสินค้าเกษตรเหล่านี้ไปยังประเทศยากจนในรูปแบบของการให้ความช่วยเหลือด้านสิทธิมนุษยชน โดยเงินภาษีเหล่านี้จะทำให้เรามีความมั่งคั่งมากกว่าการทำข้อตกลงแบบดั้งเดิม ขณะที่เกษตรกรของเราจะมีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น และประเทศยากจนก็ได้รับความช่วยเหลือ"
"ถ้าเราซื้อสินค้าเกษตรจากเกษตรกรของเราคิดเป็นเงิน 1.5 หมื่นล้านดอลลาร์ ซึ่งเป็นวงเงินสูงกว่าที่จีนซื้อจากเราในขณะนี้ เราก็จะมีเงินมากกว่า 8.5 หมื่นล้านดอลลาร์สำหรับการก่อสร้างโครงการสาธารณูปโภคใหม่ๆ หรือด้านสาธารณสุข โดยเศรษฐกิจจีนจะชะลอตัวลง ขณะที่เศรษฐกิจสหรัฐพุ่งขึ้น" ข้อความในทวิตเตอร์ระบุ
ทำเนียบขาวแถลงว่า คณะเจรจาของสหรัฐและจีนได้ตกลงกันที่จะเดินหน้าเจรจาการค้าต่อไปในวันนี้ แม้ว่าสถานการณ์ด้านการค้าระหว่างทั้งสองประเทศยังคงตึงเครียดอยู่ในขณะนี้
ทำเนียบขาวออกแถลงการณ์เมื่อคืนนี้ตามเวลาสหรัฐว่า "ในช่วงเย็นวันนี้ นายโรเบิร์ต ไลท์ไฮเซอร์ ผู้แทนการค้าสหรัฐ (USTR) และนายสตีเวน มนูชิน รัฐมนตรีคลังสหรัฐ ได้เข้าพบกับประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ เพื่อปรึกษาหารือเกี่ยวกับการเจรจาการค้ากับจีนที่กำลังดำเนินอยู่ในขณะนี้ หลังจากนั้น ผู้แทนการค้าสหรัฐและรัฐมนตรีคลังสหรัฐได้รับประทานอาหารเย็นร่วมกับนายหลิว เหอ รองนายกรัฐมนตรีจีน และทั้งสองฝ่ายได้ตกลงกันว่าจะเดินหน้าเจรจากันต่อในวันศุกร์ตามเวลาสหรัฐ ที่สำนักงาน USTR"
ทั้งนี้ คณะทำงานของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ได้ตัดสินใจปรับขึ้นภาษีนำเข้าสินค้าจีนวงเงิน 2 แสนล้านดอลลาร์ สู่ระดับ 25% จากระดับ 10% หลังจากที่เจ้าหน้าที่ระดับสูงของสหรัฐและจีนได้เสร็จสิ้นการเจรจาการค้าวันแรกในวันพฤหัสบดีตามเวลาสหรัฐ
อย่างไรก็ดี ปธน.ทรัมป์ระบุว่า สหรัฐอาจเปลี่ยนแปลงการตัดสินใจขึ้นภาษีดังกล่าว โดยขึ้นอยู่กับความคืบหน้าของการเจรจาการค้า