ตลาดหุ้นลอนดอนปิดลดลงเมื่อคืนนี้ (13 พ.ค.) เนื่องจากนักลงทุนวิตกเกี่ยวกับการทำสงครามการค้าระหว่างสหรัฐและจีน หลังจากที่จีนประกาศเพิ่มการเรียกเก็บภาษีต่อสินค้านำเข้าจากสหรัฐ เพื่อตอบโต้สหรัฐที่ได้ดำเนินการด้านภาษีต่อจีนเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว
ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,163.68 จุด ลดลง 39.61 จุด หรือ -0.55%
ตลาดปรับตัวลงเนื่องจากนักลงทุนวิตกว่าสงครามการค้าระหว่างสหรัฐและจีนจะรุนแรงขึ้น หลังจากกระทรวงการคลังของจีนแถลงวานนี้ว่า จีนจะเพิ่มการเรียกเก็บภาษีต่อสินค้านำเข้าจากสหรัฐวงเงิน 6 หมื่นล้านดอลลาร์ สู่ระดับ 25% จากเดิมที่ระดับ 10% โดยมีผลบังคับใช้ในวันที่ 1 มิ.ย.
ทั้งนี้ สินค้าในภาคเกษตรของสหรัฐจะได้รับผลกระทบมากที่สุดจากการขึ้นภาษีในครั้งนี้ หลังจากที่ถูกกระทบก่อนหน้านี้จากการทำสงครามการค้าระหว่างสหรัฐและจีน โดยรายการสินค้าที่จะถูกเรียกเก็บภาษีเพิ่มขึ้น รวมถึง ถั่ว น้ำตาล ข้าวสาลี ไก่ และไก่งวง
การที่จีนประกาศเพิ่มการเรียกเก็บภาษีต่อสินค้านำเข้าจากสหรัฐเมื่อวานนี้ ถือเป็นการตอบโต้สหรัฐ ซึ่งได้เพิ่มการเรียกเก็บภาษีต่อสินค้านำเข้าจากจีนวงเงิน 2 แสนล้านดอลลาร์ สู่ระดับ 25% จากเดิมที่ระดับ 10% เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว
นักลงทุนจับตาสถานการณ์เกี่ยวกับ Brexit โดยพรรคอนุรักษ์นิยมและพรรคแรงงานของอังกฤษเจรจาต่อรองกัน แต่ก็ยังไม่มีความแน่นอนใดๆ และคณะรัฐมนตรีอังกฤษจะประชุมกันในวันอังคารนี้ ซึ่งอาจเสนอให้มีการลงมติชี้ขาดเรื่อง Brexit ในรัฐสภาแทนการเจรจากับพรรคแรงงาน
หุ้นโวดาโฟน ร่วง 5.19% หลังมีรายงานว่า บริษัทกำลังวางแผนที่จะปรับลดเงินปันผล เนื่องจากบริษัทต้องการเงินทุนสำหรับการลงทุนเครือข่าย 5G ในอิตาลีและเยอรมนี
หุ้นเมโทร แบงก์ ร่วงลง 10.97% หลังเปิดเผยแผนเพิ่มทุน 350 ล้านปอนด์