ตลาดหุ้นลอนดอนปิดปรับตัวขึ้นเมื่อคืนนี้ (14 พ.ค.) หลังร่วงลงอย่างหนักเมื่อวันจันทร์ โดยได้แรงหนุนจากข้อมูลอัตราการว่างงานในอังกฤษลดลงสู่ระดับต่ำสุดในรอบ 45 ปี ขณะที่ตลาดคลายกังวลเกี่ยวกับสถานการณ์ความขัดแย้งด้านการค้าระหว่างสหรัฐและจีน
ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,241.60 จุด เพิ่มขึ้น 77.92 จุด หรือ +1.09%
ตลาดดีดตัวขึ้น หลังสำนักงานสถิติแห่งชาติของอังกฤษ (ONS) เปิดเผยว่า อัตราการว่างงานในอังกฤษลดลงสู่ระดับ 3.8% ในไตรมาสแรก ซึ่งเป็นระดับต่ำที่สุดนับตั้งแต่ปี 2517 ขณะที่ค่าจ้าง ซึ่งไม่รวมโบนัส เพิ่มขึ้น 3.3% ในไตรมาสแรก ส่วนค่าจ้างโดยรวม ซึ่งรวมโบนัส เพิ่มขึ้น 3.2% แต่ต่ำกว่าระดับ 3.5% ในช่วงเดือนธ.ค.-ก.พ.
นักลงทุนคลายความกังวลเกี่ยวกับสงครามการค้าระหว่างสหรัฐและจีน ขณะที่คาดหวังว่าสหรัฐและจีนจะยังคงสามารถบรรลุข้อตกลงทางการค้า
ปธน.ทรัมป์กล่าวที่ทำเนียบขาวว่า เขามีความรู้สึกว่าการเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐและจีนจะประสบความสำเร็จเป็นอย่างมาก
นอกจากนี้ ยังมีการคาดการณ์กันว่า การพบปะกันระหว่างปธน.ทรัมป์ และประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ในการประชุม G20 ในเดือนหน้า จะช่วยผ่อนคลายความขัดแย้งในการเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐและจีน
ทั้งนี้ การประชุมสุดยอด G20 จะมีขึ้นที่นครโอซากา ประเทศญี่ปุ่น ในวันที่ 28-29 มิ.ย.
หุ้นกลุ่มน้ำมันปรับตัวขึ้นตามราคาน้ำมัน หลังมีรายงานว่า กลุ่มก่อการร้ายได้ทำการโจมตีท่อส่งน้ำมันในซาอุดีอาระเบีย โดยหุ้นบีพี บวก 1.58% และหุ้นรอยัล ดัทช์ เชลล์ เพิ่มขึ้น 1.61%
หุ้นเมโทร แบงก์ พุ่งขึ้น 6.95% โดยฟื้นตัวขึ้นหลังจากดิ่งลงเกือบ 11% เมื่อวันจันทร์ หลังไฟแนนเชียล ไทม์ส รายงานว่า ธนาคารกำลังวางแผนที่จะขายบัญชีเงินกู้มูลค่ากว่า 1 พันล้านปอนด์ท่ามกลางความขัดแย้งเกี่ยวกับความผิดพลาดในการทำบัญชี