ดัชนีดาวโจนส์ฟิวเจอร์ร่วงลงกว่า 100 จุดในวันนี้ บ่งชี้ว่าตลาดหุ้นวอลล์สตรีทจะปรับตัวลงในคืนนี้ ขณะที่นักลงทุนผิดหวังต่อตัวเลขเศรษฐกิจของจีน
ณ เวลา 19.30 น.ตามเวลาไทย ดัชนีดาวโจนส์ฟิวเจอร์ลบ 120 จุด หรือ 0.47% สู่ระดับ 25,450 จุด
สำนักงานสถิติแห่งชาติจีน (NBS) รายงานในวันนี้ว่า การผลิตภาคอุตสาหกรรมขยายตัว 5.4% ในเดือนเม.ย. เมื่อเทียบรายปี ซึ่งเป็นอัตราการขยายตัวต่ำที่สุดนับตั้งแต่เดือนพ.ค.2546 และต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 6.5%
นอกจากนี้ ยอดค้าปลีกเพิ่มขึ้น 7.2% ในเดือนเม.ย. เมื่อเทียบรายปี ซึ่งเป็นอัตราต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนพ.ค.2546 และต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 8.6% จากระดับ 8.7% ในเดือนมี.ค.
ขณะเดียวกัน นักลงทุนยังคงจับตาการทำสงครามการค้าระหว่างสหรัฐและจีน โดยเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว สหรัฐได้เพิ่มการเรียกเก็บภาษีต่อสินค้านำเข้าจากจีนวงเงิน 2 แสนล้านดอลลาร์ สู่ระดับ 25% จากเดิมที่ระดับ 10% ทำให้จีนตอบโต้เมื่อวันจันทร์ ด้วยการเพิ่มการเรียกเก็บภาษีต่อสินค้านำเข้าจากสหรัฐวงเงิน 6 หมื่นล้านดอลลาร์ สู่ระดับ 25% จากเดิมที่ระดับ 10% โดยมีผลบังคับใช้ในวันที่ 1 มิ.ย.
เมซีส์ อิงค์ ซึ่งเป็นห้างสรรพสินค้ายักษ์ใหญ่ของสหรัฐ รายงานกำไรที่สูงกว่าคาดในไตรมาสแรก แต่รายได้ต่ำกว่าคาด
ทั้งนี้ เมซีส์เปิดเผยว่า บริษัทมีกำไร 44 เซนต์/หุ้น สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 33 เซนต์/หุ้น
อย่างไรก็ดี รายได้อยู่ที่ระดับ 5.504 พันล้านดอลลาร์ ต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 5.505 พันล้านดอลลาร์
เมซีส์ยังระบุว่ายอดขายเพิ่มขึ้น 0.7% เทียบกับที่นักวิเคราะห์ที่คาดว่ายอดขายจะลดลง 0.2%
นอกจากนี้ นักลงทุนจับตาข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐในสัปดาห์นี้ ซึ่งได้แก่ ยอดค้าปลีกเดือนเม.ย., ดัชนีภาคการผลิต (Empire State Manufacturing Index) เดือนพ.ค.จากเฟดนิวยอร์ก, การผลิตภาคอุตสาหกรรมเดือนเม.ย., สต็อกสินค้าภาคธุรกิจเดือนมี.ค., ดัชนีตลาดที่อยู่อาศัยเดือนพ.ค.จากสมาคมผู้สร้างบ้านแห่งชาติ (NAHB), จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์, ตัวเลขการเริ่มสร้างบ้านและการอนุญาตก่อสร้างเดือนเม.ย., ดัชนีการผลิตเดือนพ.ค.จากเฟดฟิลาเดลเฟีย, ดัชนีชี้นำเศรษฐกิจเดือนเม.ย.จาก Conference Board และดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือนพ.ค.จากมหาวิทยาลัยมิชิแกน