ตลาดหุ้นลอนดอนปิดปรับตัวขึ้นเมื่อคืนนี้ (21 พ.ค.) เนื่องจากนักลงทุนขานรับข่าวที่ว่า รัฐบาลสหรัฐยกเลิกคำสั่งห้ามบริษัทสหรัฐดำเนินธุรกิจกับบริษัทหัวเว่ยเป็นการชั่วคราว และตลาดยังได้แรงหนุนจากเงินปอนด์ที่อ่อนค่าลงด้วย
ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,328.92 จุด เพิ่มขึ้น 18.04 จุด หรือ +0.25%
ตลาดดีดตัวขึ้นรับข่าวที่ว่า กระทรวงพาณิชย์สหรัฐได้ประกาศยกเลิกเป็นการชั่วคราวต่อคำสั่งห้ามบริษัทสหรัฐในการดำเนินธุรกิจกับบริษัทหัวเว่ย โดยอนุญาตให้มีการอัพเดทซอฟท์แวร์เพื่อให้ผู้ใช้ยังคงสามารถใช้งานโทรศัพท์ของหัวเว่ยได้ โดยการยกเลิกคำสั่งดังกล่าวจะมีผลจนบังคับใช้จนถึงวันที่ 19 ส.ค.นี้
นอกจากนี้ การที่เงินปอนด์อ่อนค่าลงแตะระดับต่ำสุดในรอบ 4 เดือน ได้ช่วยหนุนหุ้นกลุ่มส่งออกด้วย
ส่วนบรรดานักลงทุนยังคงติดตามสถานการณ์เกี่ยวกับการถอนตัวของอังกฤษออกจากสหภาพยุโรป (Brexit) โดยล่าสุด นางเทเรซา เมย์ นายกรัฐมนตรีอังกฤษ ยื่นข้อเสนอให้สมาชิกรัฐสภาสามารถลงคะแนนเสียงโดยเสรีต่อกรณีการทำประชามติ Brexit เป็นครั้งที่ 2 หากรัฐสภาให้การอนุมัติข้อตกลง Brexit ของนางเมย์
การที่สมาชิกรัฐสภาสามารถลงคะแนนเสียงโดยเสรี บ่งชี้ว่าสมาชิกสามารถโหวตโดยไม่ถูกกำหนดตามมติพรรค ซึ่งจะเพิ่มความเป็นไปได้ที่อังกฤษจะมีการจัดทำประชามติครั้งใหม่เกี่ยวกับ Brexit เนื่องจากสมาชิกรัฐสภาส่วนใหญ่มีความเห็นสนับสนุนให้อังกฤษรวมตัวกับสหภาพยุโรป (EU) ต่อไป
หุ้นบีที กรุ๊ป เพิ่มขึ้น 0.07% หุ้นเอชเอสบีซี บวก 0.63% และ หุ้นรอยัล ดัทช์ เชลล์ เพิ่มขึ้น 0.29%