ดัชนีดาวโจนส์เปิดแดนลบในวันนี้ ท่ามกลางความกังวลเกี่ยวกับการทำสงครามการค้าระหว่างสหรัฐและจีน
นอกจากนี้ ตลาดยังถูกกดดันจากการดิ่งลงของหุ้นควอลคอม อิงค์ และหุ้นกลุ่มค้าปลีก
ณ เวลา 21.08 น.ตามเวลาไทย ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์อยู่ที่ 25,825.91 จุด ลบ 51.42 จุด หรือ 0.20%
นายสตีเวน มนูชิน รมว.คลังสหรัฐ กล่าวว่า เขายังไม่มีกำหนดการเดินทางไปยังกรุงปักกิ่งเพื่อเจรจาการค้ารอบใหม่
ทางด้านประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ผู้นำจีน ส่งสัญญาณเมื่อวานนี้ว่า จีนพร้อมที่จะทำสงครามการค้าที่ยืดเยื้อกับสหรัฐ
"เราอยู่ที่นี่ ซึ่งเป็นจุดเริ่มต้นของการเดินทัพทางไกล (Long March) เพื่อระลึกถึงช่วงเวลาที่กองทัพแดงได้เริ่มออกเดินทัพ" ปธน.สี จิ้นผิงกล่าวปราศรัยที่มณฑลเจียงสี
"ขณะนี้ เรากำลังเตรียมเดินทัพทางไกลครั้งใหม่ และเราจะต้องเริ่มต้นอีกครั้งหนึ่ง" รายงานจากหนังสือพิมพ์เซาธ์ ไชน่า มอร์นิ่ง โพสต์ระบุถึงคำกล่าวของปธน.สี จิ้นผิง
ถึงแม้ปธน.สี จิ้นผิงไม่ได้ระบุถึงสหรัฐ หรือการทำสงครามการค้าระหว่างจีนและสหรัฐ แต่ถ้อยคำของปธน.สี จิ้นผิงถูกตีความว่า เป็นการส่งสัญญาณว่าจีนจะไม่ยอมแพ้ต่อสหรัฐในเร็วๆนี้
ทั้งนี้ การเดินทัพทางไกลเป็นการเดินทัพของกองทัพแดงในการทำสงครามกลางเมืองของจีนในช่วงทศวรรษ 1930
ปธน.สี จิ้นผิงได้เยี่ยมชมบริษัทผลิตแร่หายากในมณฑลเจียงสีเมื่อวันจันทร์ ขณะที่มีการคาดการณ์ว่า จีนอาจใช้แร่หายากเป็นเครื่องมือตอบโต้ในการทำสงครามการค้ากับสหรัฐ โดยอาจสั่งห้ามการส่งออกแร่เหล่านี้ หากการทำสงครามการค้ามีความรุนแรงขึ้น
การเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐและจีนประสบความล้มเหลวในเดือนนี้ โดยที่ประชุมไม่สามารถบรรลุข้อตกลงการค้า ขณะที่สหรัฐได้เพิ่มการเรียกเก็บภาษีต่อสินค้านำเข้าจากจีนวงเงิน 2 แสนล้านดอลลาร์ สู่ระดับ 25% จากเดิมที่ระดับ 10% ส่งผลให้จีนทำการตอบโต้ ด้วยการเพิ่มการเรียกเก็บภาษีต่อสินค้านำเข้าจากสหรัฐวงเงิน 6 หมื่นล้านดอลลาร์ สู่ระดับ 25% จากเดิมที่ระดับ 10% โดยมีผลบังคับใช้ในวันที่ 1 มิ.ย.
ราคาหุ้นควอลคอมดิ่งลง 9.5% หลังศาลแขวงสหรัฐมีคำตัดสินในวันนี้ว่า ควอลคอม อิงค์ ซึ่งเป็นผู้ผลิตชิปรายใหญ่ของสหรัฐ ได้ดำเนินการที่ผิดกฎหมาย และขัดขวางการแข่งขันในตลาด ในการออกสิทธิบัตรสำหรับโมเด็มชิปที่ใช้ในสมาร์ทโฟน
ผู้พิพากษาลูซี โก๊ะ ระบุว่า ควอลคอมได้ใช้สถานะการเป็นผู้นำในตลาดในการบีบให้คู่แข่งไม่สามารถทำสัญญาได้ และบังคับให้ผู้ผลิตโทรศัพท์มือถือต้องจ่ายเงินมากขึ้นสำหรับสิทธิบัตร
นอกจากนี้ ศาลยังมีคำสั่งให้ควอลคอมทำการเจรจาครั้งใหม่สำหรับการทำข้อตกลงสิทธิบัตร โดยห้ามบริษัทใช้คำขู่ที่จะไม่ส่งชิปให้ และให้เจรจาราคาที่เป็นธรรม รวมทั้งให้บริษัทเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมในการทำธุรกิจ โดยควอลคอมจะถูกจับตาเป็นเวลา 7 ปี เพื่อให้มั่นใจว่าบริษัทได้ปฏิบัติตามคำสั่งศาล
อย่างไรก็ดี ควอลคอมแถลงว่าทางบริษัทเห็นต่างจากศาล และจะทำการยื่นอุทธรณ์ต่อไป
ก่อนหน้านี้ คณะกรรมาธิการการค้าของรัฐบาลกลางสหรัฐ (FTC) ได้ยื่นฟ้องควอลคอมต่อศาลแขวงสหรัฐในปี 2560 โดยกล่าวหาบริษัทว่าใช้กลยุทธ์ที่ขัดขวางการแข่งขันในตลาด
ราคาหุ้นบริษัทโลว์ส ซึ่งเป็นบริษัทจำหน่ายสินค้าตกแต่งบ้านรายใหญ่ของสหรัฐ และเป็นคู่แข่งของบริษัทโฮม ดีโปท์ อิงค์ ร่วงลงมากกว่า 8% หลังเปิดเผยกำไรต่ำกว่าคาดในไตรมาสแรก
ทั้งนี้ โลว์สเปิดเผยว่า บริษัทมีกำไร 1.22 ดอลลาร์/หุ้น ต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 1.33 ดอลลาร์/หุ้น
อย่างไรก็ดี บริษัทมีรายได้ 1.774 หมื่นล้านดอลลาร์ สูงกว่าตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ที่ระดับ 1.766 หมื่นล้านดอลลาร์
ขณะเดียวกัน บริษัทมียอดขายเพิ่มขึ้น 3.5% ซึ่งสูงกว่าตัวเลขคาดการณ์ที่ระดับ 3.2%
นอกจากนี้ นักลงทุนจับตารายงานการประชุมของธนาคารกลางสหรัฐ (FOMC) ประจำวันที่ 30 เม.ย.-1 พ.ค. ที่มีกำหนดเปิดเผยในวันนี้