ดาวโจนส์ไหลไม่หยุด ล่าสุดทรุดกว่า 400 จุด กังวลสงครามการค้า,ศก.สหรัฐซบ

ข่าวหุ้น-การเงิน Thursday May 23, 2019 23:05 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ดัชนีดาวโจนส์ดิ่งลงอย่างต่อเนื่องในวันนี้ ล่าสุดทรุดลงกว่า 400 จุด ท่ามกลางความวิตกเกี่ยวกับข้อพิพาททางการค้าระหว่างสหรัฐและจีน

นอกจากนี้ ตลาดยังถูกกดดันจากการเปิดเผยตัวเลขเศรษฐกิจที่ซบเซาของสหรัฐในวันนี้

ณ เวลา 22.59 น.ตามเวลาไทย ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์อยู่ที่ 25,374.15 จุด ลบ 402.46 จุด หรือ 1.56%

นายเกา เฟิง โฆษกกระทรวงพาณิชย์จีน กล่าวว่า การดำเนินการทางด้านการค้าของสหรัฐในระยะนี้กำลังเป็นอุปสรรคขัดขวางการเจรจาการค้ากับจีน ซึ่งถ้าสหรัฐต้องการให้การเจรจาการค้าดำเนินต่อไป สหรัฐจะต้องมีความจริงใจในการแก้ไขการกระทำที่ผิดพลาด หลังจากนั้น การเจรจาจึงจะเกิดขึ้นได้

นายเกาไม่ได้ระบุรายละเอียดเกี่ยวกับการดำเนินการด้านการค้าดังกล่าวของสหรัฐ อย่างไรก็ดี คำกล่าวของนายเกามีขึ้น หลังจากที่สหรัฐขึ้นบัญชีดำบริษัทหัวเว่ย เทคโนโลยี่ ทำให้บริษัทไม่สามารถซื้อสินค้าจากสหรัฐ และสหรัฐยังได้เพิ่มการเรียกเก็บภาษีต่อสินค้านำเข้าจากจีนวงเงิน 2 แสนล้านดอลลาร์ สู่ระดับ 25% จากเดิมที่ระดับ 10%

"การมุ่งโจมตีบริษัทจีนไม่เพียงแต่สร้างความเสียหายต่อความร่วมมือทางการค้าระหว่างจีนและสหรัฐ แต่ยังคุกคามต่อความมั่นคงของอุตสาหกรรมระดับโลก และห่วงโซ่อุปทาน ซึ่งจีนคัดค้านในเรื่องดังกล่าว และเราจะจับตาพัฒนาการ และจะมีการเตรียมการรับมือที่เหมาะสม" เขากล่าว

นอกจากนี้ สหรัฐเตรียมพิจารณาเพิ่มบัญชีรายชื่อบริษัทจีนที่จะถูกขึ้นบัญชีดำ โดยประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์กำลังพิจารณาที่จะขึ้นบัญชีดำบริษัทจำหน่ายกล้องวงจรปิดรายใหญ่ 5 รายของจีน ซึ่งรวมถึงบริษัท Hikvision Digital Technology และ บริษัท Dahua Technology ด้วยข้อหากระทำการละเมิดสิทธิมนุษยชน

นายไมค์ ปอมเปโอ รมว.ต่างประเทศสหรัฐ ยืนยันว่า บริษัทหัวเว่ย เทคโนโลยี่ได้ทำงานให้รัฐบาลจีน แม้บริษัทได้ปฏิเสธเรื่องดังกล่าวก็ตาม

ที่ผ่านมา นายปอมเปโอมักกล่าววิพากษ์วิจารณ์บริษัทหัวเว่ย และได้พบปะกับผู้นำของอังกฤษในเดือนนี้เพื่อขอความร่วมมือในการสกัดกั้นมิให้หัวเว่ยเข้าถึงข้อมูลข่าวกรองของสหรัฐ

นอกจากนี้ เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว สหรัฐได้ขึ้นบัญชีดำหัวเว่ย ทำให้บริษัทไม่สามารถซื้อสินค้าจากสหรัฐ

กระทรวงพาณิชย์สหรัฐรายงานว่า ยอดขายบ้านใหม่ร่วงลง 6.9% ในเดือนเม.ย. เมื่อเทียบรายเดือน สู่ระดับ 673,000 ยูนิต หลังจากพุ่งแตะระดับ 723,000 ยูนิตในเดือนมี.ค. ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนต.ค.2550

ยอดขายบ้านลดลงในทุกภูมิภาค ยกเว้นภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ซึ่งพุ่งขึ้น 11.5%

นักวิเคราะห์คาดการณ์ก่อนหน้านี้ว่ายอดขายบ้านใหม่จะลดลง 2.8% สู่ระดับ 675,000 ยูนิตในเดือนเม.ย.

ไอเอชเอส มาร์กิต ซึ่งเป็นบริษัทให้บริการข้อมูลทางการเงิน เปิดเผยว่า ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) รวมภาคการผลิต และภาคบริการเบื้องต้นของสหรัฐ ปรับตัวลงสู่ระดับ 50.9 ในเดือนพ.ค. ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดในรอบ 36 เดือน หลังจากแตะระดับ 53.0 ในเดือนเม.ย.

การปรับตัวลงของดัชนี PMI ในเดือนพ.ค.ได้รับผลกระทบจากการชะลอตัวของคำสั่งซื้อใหม่ และการจ้างงาน ขณะที่ความเชื่อมั่นของภาคธุรกิจแตะระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนก.ค.2555

อย่างไรก็ดี ดัชนียังคงอยู่สูงกว่าระดับ 50 ซึ่งบ่งชี้ว่า ภาคธุรกิจของสหรัฐยังคงมีการขยายตัว

ส่วนดัชนี PMI ภาคการผลิตเบื้องต้น อยู่ที่ 50.6 ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดในรอบ 116 เดือน จากระดับ 52.6 ในเดือนเม.ย.

สำหรับดัชนี PMI ภาคบริการเบื้องต้น อยู่ที่ 50.9 ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดในรอบ 39 เดือน จากระดับ 53.0 ในเดือนเม.ย.


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ