ตลาดหุ้นลอนดอนปิดปรับตัวขึ้นเมื่อคืนนี้ (24 พ.ค.) เนื่องจากนักลงทุนขานรับต่อการที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์แห่งสหรัฐกล่าวว่า สงครามการค้าระหว่างสหรัฐและจีน จะจบลงอย่างรวดเร็ว ขณะที่ตลาดปรับตัวรับข่าว นางเทเรซา เมย์ นายกรัฐมนตรีอังกฤษ ประกาศลาออกจากตำแหน่งหัวหน้าพรรคอนุรักษ์นิยม โดยจะมีผลในวันที่ 7 มิ.ย.นี้
ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,277.73 จุด เพิ่มขึ้น 46.69 จุด หรือ +0.65%
ตลาดปรับตัวขึ้น หลังจากปธน.ทรัมป์เปิดเผยว่า เขาจะพบกับประธานาธิบดีสี จิ้นผิงของจีน ในการประชุม G20 ที่ญี่ปุ่นในเดือนหน้า โดยการประชุมสุดยอด G20 จะจัดขึ้นที่นครโอซากา ประเทศญี่ปุ่น ในวันที่ 28-29 มิ.ย.
ปธน.ทรัมป์กล่าวก่อนหน้านี้ว่า การพบปะกับปธน.สี จิ้นผิง จะช่วยผ่อนคลายความขัดแย้งในการเจรจาการค้ากับจีน
นอกจากนี้ ตลาดยังได้แรงหนุนจากการที่ ปธน.ทรัมป์ระบุว่า สหรัฐจะผ่อนคลายคำสั่งห้ามการทำธุรกิจกับหัวเว่ย โดยเป็นส่วนหนึ่งของข้อตกลงการค้า
ตลาดไม่ได้รับผลกระทบจากการที่นางเทเรซา เมย์ นายกรัฐมนตรีอังกฤษ ประกาศลาออกจากตำแหน่งหัวหน้าพรรคอนุรักษ์นิยม โดยจะมีผลในวันที่ 7 มิ.ย.นี้
อย่างไรก็ดี นางเมย์จะยังคงเป็นนายกรัฐมนตรีรักษาการต่อไปอีกระยะหนึ่ง จนกว่าจะมีการสรรหาผู้นำพรรคอนุรักษ์นิยมคนใหม่
หุ้นกลุ่มเหมืองแร่หนุนตลาดขึ้นมากที่สุด หลังราคาทองแดงดีดตัวขึ้น ขณะที่ดอลลาร์อ่อนค่าลง
หุ้นเกล็นคอร์ บวก 0.52% หุ้นแองโกล อเมริกัน พุ่งขึ้น 2.26% และหุ้นริโอ ทินโต บวก 1.14%
หุ้นมาเธอร์แคร์ในกลุ่มค้าปลีก พุ่งขึ้น 9.32% หลังรายงานประจำปีของบริษัทบ่งชี้ว่าความพยายามในการปรับโครงสร้างประสบผลสำเร็จ