ตลาดหุ้นยุโรปปิดลบเมื่อคืนนี้ (28 พ.ค.) โดยหุ้นกลุ่มธนาคารร่วงลงจากความวิตกเกี่ยวกับความเป็นไปได้ที่อิตาลีจะถูกปรับ เนื่องจากมีระดับหนี้ และยอดขาดดุลงบประมาณสูงเกินกำหนด และนักลงทุนก็ยังคงติดตามสถานการณ์การค้าระหว่างจีนและสหรัฐ ขณะที่การเดินทางเยือนญี่ปุ่นของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐเสร็จสิ้นแล้วเมื่อวานนี้
ดัชนี Stoxx Europe 600 ลบ 0.22% ปิดที่ 375.90 จุด
ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 5,312.69 จุด ลดลง 23.50 จุด หรือ -0.44% ขณะที่ ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมันปิดที่ 12,027.05 จุด ลดลง 44.13 จุด หรือ -0.37%และ ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,268.95 จุด ลดลง 8.78 จุด หรือ -0.12%
ตลาดปรับตัวลง นำโดยหุ้นกลุ่มธนาคาร หลังนายมัตเตโอ ซัลวินี รองนายกรัฐมนตรีอิตาลีระบุว่า รัฐบาลอิตาลีอาจถูกสหภาพยุโรป (EU) สั่งปรับเป็นเงินถึง 3 พันล้านยูโร ฐานละเมิดกฎเกณฑ์ด้านการคลังของสหภาพยุโรป
หุ้นเอชเอสบีซี ร่วง 1.05% หุ้นบังโก แซนแทนเดอร์ ลบ 0.48% และ หุ้นลอยด์ส ร่วงลง 1.52%
นอกจากนี้ นักลงทุนยังคงจับตาสถานการณ์การถอนตัวของอังกฤษออกจาก EU (Brexit) ด้วย ขณะที่นายฌอง-คล็อด ยุงเกอร์ ประธานคณะกรรมาธิการยุโรป (EC) เปิดเผยเมื่อวานนี้ว่า EU ไม่มีความตั้งใจที่จะเจรจาข้อตกลง Brexit อีกรอบ เพราะได้บรรลุข้อตกลงกับรัฐบาลอังกฤษไปแล้ว แม้ข้อตกลงดังกล่าวไม่ผ่านการรับรองจากรัฐสภาอังกฤษมาหลายครั้งจนทำให้นางเทเรซา เมย์ นายกรัฐมนตรีอังกฤษ ต้องประกาศลาออกเมื่อไม่นานมานี้ก็ตาม