ตลาดหุ้นลอนดอนปิดลดลงเมื่อคืนนี้ (28 พ.ค.) นำโดยหุ้นกลุ่มบริษัทผลิตบุหรี่หลังรายงานยอดขายลดลง ขณะที่หุ้นกลุ่มเวชภัณฑ์ขนาดใหญ่ปรับตัวลง ซึ่งส่งผลกดดันตลาดด้วย นอกจากนี้ นักลงทุนยังกังวลกับความขัดแย้งด้านการค้าระหว่างสหรัฐและจีน หลังจากประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ระบุว่า สหรัฐยังไม่พร้อมที่จะทำข้อตกลงกับจีน
ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,268.95 จุด ลดลง 8.78 จุด หรือ -0.12%
ตลาดปรับตัวลง หลังหุ้นกลุ่มบริษัทผลิตบุหรี่ร่วงลง เนื่องจากบริษัทนีลเซนเปิดเผยข้อมูลบ่งชี้ว่า ยอดขายบุหรี่ลดลงในรอบ 4 สัปดาห์ที่สิ้นสุดวันที่ 18 พ.ค.
หุ้นบริติช อเมริกัน โทแบคโค ร่วง 3.28% และ หุ้นอิมพีเรียล แบรนด์ส ร่วงลง 2.40%
หุ้นเอสตราเซเนกา ร่วง 2.48% และ หุ้นแกล็คโซสมิธไคลน์ ร่วง 2.17% โดยเผชิญแรงขายทำกำไรหลังปรับตัวขึ้น 3 วัน
นักลงทุนยังคงจับตาสถานการณ์การถอนตัวของอังกฤษออกจาก EU (Brexit) ด้วย ขณะที่นายฌอง-คล็อด ยุงเกอร์ ประธานคณะกรรมาธิการยุโรป (EC) เปิดเผยเมื่อวานนี้ว่า EU ไม่มีความตั้งใจที่จะเจรจาข้อตกลง Brexit อีกรอบ เพราะได้บรรลุข้อตกลงกับรัฐบาลอังกฤษไปแล้ว แม้ข้อตกลงดังกล่าวไม่ผ่านการรับรองจากรัฐสภาอังกฤษมาหลายครั้งจนทำให้นางเทเรซา เมย์ นายกรัฐมนตรีอังกฤษ ต้องประกาศลาออกเมื่อไม่นานมานี้ก็ตาม