ดัชนีดาวโจนส์ฟิวเจอร์พุ่งขึ้นกว่า 100 จุดในวันนี้ บ่งชี้ว่าตลาดหุ้นวอลล์สตรีทจะดีดตัวขึ้นในคืนนี้ ต่อเนื่องจากที่ทะยานขึ้นเมื่อวานนี้
ณ เวลา 19.04 น.ตามเวลาไทย ดัชนีดาวโจนส์ฟิวเจอร์บวก 150 จุด หรือ 0.59% สู่ระดับ 25,496 จุด
ดัชนีดาวโจนส์ปิดพุ่งขึ้นกว่า 500 จุดเมื่อคืนนี้ ขานรับสัญญาณบวกที่ว่า ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) อาจจะปรับลดอัตราดอกเบี้ย หลังจากนายเจอโรม พาวเวล ประธานเฟด ได้ให้คำมั่นว่า เฟดจะดำเนินการในสิ่งที่จำเป็นเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจสหรัฐ และอาจนำมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE) กลับมาใช้อีกครั้ง นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับปัจจัยหนุนจากข่าวที่ว่า สภาคองเกรสเตรียมลงมติคัดค้านแผนการของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ในการปรับขึ้นอัตราภาษีสินค้านำเข้าจากเม็กซิโก
การพุ่งขึ้นกว่า 500 จุดของดัชนีดาวโจนส์เมื่อคืนนี้ ถือเป็นการทำสถิติทะยานขึ้นมากที่สุดเป็นอันดับ 2 ของปีนี้
หุ้นแคทเธอร์ พิลลาร์ดีดตัวขึ้น 0.8% ในการซื้อขายก่อนเปิดตลาดวันนี้ โดยหุ้นของบริษัทถือเป็นตัวชี้วัดสภาวะการค้าของสหรัฐ เนื่องจากมีการลงทุนจำนวนมากในต่างประเทศ
ส่วนหุ้นแอปเปิล อิงค์พุ่งขึ้น 1.7% ก่อนเปิดตลาดวันนี้ หลังจากที่นายทิม คุก ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของแอปเปิล กล่าวว่า จีนไม่ได้พุ่งเป้าหมายตอบโต้บริษัท แม้สหรัฐและจีนกำลังมีความขัดแย้งทางการค้าในขณะนี้
นอกจากนี้ นักลงทุนจับตานายสตีเวน มนูชิน รมว.คลังสหรัฐ ซึ่งมีกำหนดพบปะกับนายอี้ กัง ผู้ว่าการธนาคารกลางจีน ในการประชุมเจ้าหน้าที่ระดับสูงของกลุ่ม G20 ซึ่งจะมีขึ้นที่ประเทศญี่ปุ่นในช่วงสุดสัปดาห์นี้
การพบปะกันระหว่างนายมนูชินและนายอี้ ซึ่งเป็นเจ้าหน้าที่เจรจาการค้าคนสำคัญของทั้งสองฝ่ายนั้น ถือเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่การเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐและจีนหยุดชะงักลงในเดือนที่แล้ว
นอกจากนี้ รายงานยังระบุว่า นายมนูชินจะจัดการประชุมทวิภาคีกับเจ้าหน้าที่ระดับสูงของประเทศอื่นๆในกลุ่ม G20 อีก 9 ราย ซึ่งรวมถึงรัฐมนตรีคลังญี่ปุ่น, เยอรมนี และนายมาริโอ ดรากี ประธานธนาคารกลางยุโรป (ECB)
ส่วนการประชุมสุดยอด G20 ซึ่งจะเป็นการประชุมของผู้นำประเทศของกลุ่ม G20 จะมีขึ้นที่นครโอซากา ประเทศญี่ปุ่น ในวันที่ 28-29 มิ.ย.
ทั้งนี้ กลุ่ม G20 ประกอบด้วย อาร์เจนตินา ออสเตรเลีย บราซิล สหราชอาณาจักร แคนาดา จีน ฝรั่งเศส เยอรมนี อินเดีย อินโดนีเซีย อิตาลี ญี่ปุ่น เม็กซิโก รัสเซีย ซาอุดีอาระเบีย แอฟริกาใต้ เกาหลีใต้ ตุรกี สหรัฐ และสหภาพยุโรป