ตลาดหุ้นยุโรปปิดร่วงลงเมื่อคืนนี้ (6 มิ.ย.) เนื่องจากนักลงทุนผิดหวังที่ธนาคารกลางยุโรป (ECB) ไม่ได้ส่งสัญญาณถึงการผ่อนคลายนโยบายการเงินอย่างมากตามที่พวกคาดไว้ ซึ่งส่งผลให้ยูโรแข็งค่าขึ้น และส่งผลกระทบต่อหุ้นกลุ่มส่งออก
ดัชนี Stoxx Europe 600 ลดลง 0.02% ปิดที่ 374.01 จุด
ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 5,278.43 จุด ลดลง 13.56 จุด หรือ -0.26% ขณะที่ ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมันปิดที่ 11,953.14 จุด ลดลง 27.67 จุด หรือ -0.23% และ ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,259.85 จุด เพิ่มขึ้น 39.63 จุด หรือ +0.55%
ตลาดถูกกดดัน เนื่องจาก ECB ไม่ได้ส่งสัญญาณผ่อนคลายนโยบายการเงินตามที่คาดกันไว้ โดย ECB ระบุแค่ว่า จะยังคงตรึงอัตราดอกเบี้ยต่อไป อย่างน้อยจนถึงช่วงครึ่งปีแรกของปี 2563
ECB มีมติหลังการประชุมเมื่อวานนี้ให้คงอัตราดอกเบี้ยนโยบาย ซึ่งเป็นอัตราดอกเบี้ยรีไฟแนนซ์ที่ระดับ 0% ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดเป็นประวัติการณ์ พร้อมกับคงอัตราดอกเบี้ยเงินฝากที่ธนาคารพาณิชย์ฝากไว้กับ ECB ที่ระดับ -0.40% ขณะที่คงอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ที่ระดับ 0.25%
นายมาริโอ ดรากี ประธาน ECB กล่าวแต่เพียงว่า ECB พร้อมจะออกมาตรการรับมือปัจจัยที่จะส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจยูโรโซน และพร้อมที่จะใช้เครื่องมือทั้งหมดที่มีอยู่ เพื่อสร้างความมั่นใจว่าเงินเฟ้อจะยังคงปรับตัวใกล้เป้าหมายของ ECB อย่างยั่งยืน
ยูโรแข็งค่าขึ้นขานรับความเห็นของ ECB และส่งผลกดดันหุ้นกลุ่มส่งออก
หุ้นกลุ่มผู้ผลิตรถยนต์และชิ้นส่วนรถยนต์ปรับตัวลง โดยหุ้นเดมเลอร์ ลบ 1.53% หุ้นโฟล์คสวาเกน ลดลง 0.66% หุ้นเฮลลา ปรับตัวลง 1.33% และ หุ้นคอนติเนนตัล เอจี ลดลง 0.31%
หุ้นเรโนลต์ร่วง 6.4% หลังบริษัท เฟียต ไครสเลอร์ ออโตโมบิลส์ (FCA) ยืนยันว่า ได้ถอนตัวจากการเสนอควบรวมกิจการกับบริษัท เรโนลต์ เอสเอแล้ว โดยระบุว่า บรรยากาศทางการเมืองในฝรั่งเศสเป็นเหตุผลสำคัญที่ทำให้แผนการควบรวมกิจการไม่ประสบความสำเร็จ