ตลาดหุ้นลอนดอนปิดปรับตัวขึ้นเมื่อคืนนี้ (6 มิ.ย.) เนื่องจากนักลงทุนคาดว่า ธนาคารกลางของประเทศต่างๆ จะผ่อนคลายนโยบายการเงินเพื่อรับมือกับความวิตกเกี่ยวกับการขยายตัวของเศรษฐกิจโลก แต่ตลาดลดช่วงบวกลง หลังธนาคารกลางยุโรป (ECB) ไม่ได้ส่งสัญญาณผ่อนคลายนโยบายการเงินตามที่นักลงทุนคาดกันไว้
ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,259.85 จุด เพิ่มขึ้น 39.63 จุด หรือ +0.55%
ตลาดปรับตัวขึ้นขานรับแนวโน้มที่ธนาคารกลางรายใหญ่ๆ จะผ่อนคลายนโยบายการเงินเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ ท่ามกลางความวิตกว่าความขัดแย้งด้านการค้าระหว่างสหรัฐกับจีนและเม็กซิโกจะส่งผลกระทบต่อการขยายตัวของเศรษฐกิจโลก
อย่างไรก็ตาม ตลาดลดช่วงบวกลง เนื่องจาก ECB ไม่ได้ส่งสัญญาณผ่อนคลายนโยบายการเงินตามที่คาดกันไว้ โดย ECB ระบุแค่ว่า จะยังคงตรึงอัตราดอกเบี้ยต่อไป อย่างน้อยจนถึงช่วงครึ่งปีแรกของปี 2563
ECB มีมติหลังการประชุมเมื่อวานนี้ให้คงอัตราดอกเบี้ยนโยบาย ซึ่งเป็นอัตราดอกเบี้ยรีไฟแนนซ์ที่ระดับ 0% ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดเป็นประวัติการณ์ พร้อมกับคงอัตราดอกเบี้ยเงินฝากที่ธนาคารพาณิชย์ฝากไว้กับ ECB ที่ระดับ -0.40% ขณะที่คงอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ที่ระดับ 0.25%
นายมาริโอ ดรากี ประธาน ECB กล่าวแต่เพียงว่า ECB พร้อมจะออกมาตรการรับมือปัจจัยที่จะส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจยูโรโซน และพร้อมที่จะใช้เครื่องมือทั้งหมดที่มีอยู่ เพื่อสร้างความมั่นใจว่าเงินเฟ้อจะยังคงปรับตัวใกล้เป้าหมายของ ECB อย่างยั่งยืน
หุ้นกลุ่มปลอดภัย อาทิ กลุ่มบริษัทยาสูบและเฮลธ์แคร์ ปรับตัวขึ้นจากแรงซื้อท่ามกลางความไม่แน่นอนในตลาด โดยหุ้นอิมพีเรียล แบรนด์ พุ่งขึ้น 5.83% หุ้นบริติช อเมริกัน โทแบคโค บวก 3.08% หุ้นเอสตราเซเนกา เพิ่มขึ้น 1.44% และ หุ้นแกล็คโซสมิธไคลน์ บวก 1.13%