ดัชนีดาวโจนส์ฟิวเจอร์พุ่งขึ้นกว่า 100 จุดในวันนี้ บ่งชี้ว่าตลาดหุ้นวอลล์สตรีทจะดีดตัวขึ้นในคืนนี้ ขณะที่นักลงทุนคลายความกังวล หลังจากที่สหรัฐได้ระงับการจัดเก็บภาษีสินค้านำเข้าจากเม็กซิโก เนื่องจากทั้ง 2 ประเทศสามารถตกลงกันได้เกี่ยวกับการแก้ไขปัญหาผู้อพยพผิดกฎหมายจากเม็กซิโก
ณ เวลา 18.56 น.ตามเวลาไทย ดัชนีดาวโจนส์ฟิวเจอร์บวก 133 จุด หรือ 0.51% สู่ระดับ 26,140 จุด
ดัชนีดาวโจนส์ปิดพุ่งขึ้นกว่า 200 จุดเมื่อวันศุกร์ โดยได้แรงหนุนจากการที่นักลงทุนคาดการณ์ว่า ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยเร็วกว่าที่คาดไว้ โดยจะดำเนินการอย่างเร็วที่สุดในเดือนหน้า หลังการเปิดเผยตัวเลขการจ้างงานที่อ่อนแอเกินคาดของสหรัฐ
ทั้งนี้ เฟดจะประชุมกำหนดนโยบายการเงินในวันที่ 18-19 มิ.ย. ขณะที่ FedWatch ซึ่งเป็นเครื่องมือวิเคราะห์ภาวะการซื้อขายสัญญาฟิวเจอร์อัตราดอกเบี้ยสหรัฐของ CME Group บ่งชี้ว่า นักลงทุนคาดการณ์ว่า มีโอกาส 79% ที่เฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยอย่างเร็วที่สุดในเดือนก.ค. และมีโอกาส 90% ที่เฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยในเดือนก.ย. และโอกาสมากกว่า 80% ที่เฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยอีกครั้งในเดือนธ.ค.
ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์กล่าวว่า การจัดเก็บภาษีต่อสินค้านำเข้าจากเม็กซิโกจะถูกระงับต่อไปโดยไม่มีกำหนด ขณะที่เขาแสดงความ เชื่อมั่นว่า เม็กซิโกจะทำการกวาดล้างต่อผู้อพยพผิดกฎหมายจากอเมริกากลาง
นายมาร์เซโล เอบราร์ด รัฐมนตรีต่างประเทศเม็กซิโก เปิดเผยว่า รัฐบาลเม็กซิโกจะส่งทหาร 6,000 นายเข้าไปประจำการในพื้นที่ชายแดนตอนใต้ซึ่งอยู่ติดกับกัวเตมาลา เพื่อสกัดกั้นการหลั่งไหลของผู้อพยพ
ทั้งนี้ เมื่อวันที่ 30 พ.ค.ที่ผ่านมา ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ได้ประกาศเรียกเก็บภาษีต่อสินค้าทั้งหมดที่นำเข้าจากเม็กซิโก ในอัตรา 5% โดยจะเริ่มมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 10 มิ.ย. และจะเพิ่มขึ้นทุกเดือนจนแตะระดับ 25% ในวันที่ 1 ต.ค. ถ้าเม็กซิโกไม่สามารถสกัดการหลั่งไหลของผู้อพยพผิดกฎหมายที่ข้ามพรมแดนเข้าสู่สหรัฐ
ราคาหุ้นของบริษัทเจเนรัล มอเตอร์ (GM) และฟอร์ด ซึ่งอาจได้รับผลกระทบจากการเรียกเก็บภาษีต่อสินค้าเม็กซิโก ต่างดีดตัวขึ้นในการซื้อขายก่อนเปิดตลาดวันนี้ ขณะที่นักลงทุนคลายความกังวลเกี่ยวกับการทำสงครามการค้าระหว่างสหรัฐและเม็กซิโก
นอกจากนี้ นักลงทุนจับตาการประชุมสุดยอด G20 ซึ่งคาดว่าประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐ และประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ผู้นำของจีน จะพบปะกันนอกรอบการประชุมดังกล่าว ซึ่งจะมีขึ้นในวันที่ 28-29 มิ.ย.
นายสตีเวน มนูชิน รมว.คลังสหรัฐ กล่าวว่า ปธน.ทรัมป์จะตัดสินใจว่าจะเดินหน้าเรียกเก็บภาษีต่อสินค้าจีนหรือไม่ หลังการประชุมกับปธน.สี จิ้นผิง