ดัชนีดาวโจนส์แทบไม่ขยับในวันนี้ ขณะที่ตลาดพักฐาน หลังจากพุ่งขึ้นก่อนหน้านี้
ณ เวลา 20.55 น.ตามเวลาไทย ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์อยู่ที่ 26,046.76 จุด ลบ 1.75 จุด หรือ 0.01%
ดัชนีดาวโจนส์ทะยานขึ้นเกือบ 5% ในเดือนนี้ โดยฟื้นตัวจากที่ดิ่งลงในเดือนพ.ค. ขณะที่นักลงทุนคลายวิตกเกี่ยวกับความขัดแย้งทางการค้าระหว่างสหรัฐและเม็กซิโก รวมทั้งมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยในปีนี้
กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่า ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) เพิ่มขึ้นเพียง 0.1% ในเดือนพ.ค. เมื่อเทียบรายเดือน สอดคล้องกับตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ หลังจากเพิ่มขึ้น 0.3% ในเดือนเม.ย.
ดัชนี CPI ได้แรงหนุนจากการดีดตัวขึ้นของราคาอาหาร แต่ถูกกดดันจากการร่วงลงของราคาน้ำมัน
เมื่อเทียบรายปี ดัชนี CPI เพิ่มขึ้น 1.8% ในเดือนพ.ค. ต่ำกว่าตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ที่ระดับ 1.9% หลังจากเพิ่มขึ้น 1.9% ในเดือนเม.ย.
หากไม่นับรวมหมวดอาหารและพลังงาน ดัชนี CPI พื้นฐานขยับขึ้น 0.1% ติดต่อกันเป็นเดือนที่ 4 เมื่อเทียบรายเดือน
เมื่อเทียบรายปี ดัชนี CPI พื้นฐานปรับตัวขึ้น 2.0% หลังจากเพิ่มขึ้น 2.1% ในเดือนเม.ย.
ตลาดการเงินได้เพิ่มการคาดการณ์เกี่ยวกับการปรับลดอัตราดอกเบี้ยของเฟดในปีนี้ หลังการเปิดเผยตัวเลขการจ้างงานที่อ่อนแอของสหรัฐ ขณะที่เจ้าหน้าที่เฟดหลายราย ซึ่งรวมถึงนายเจอโรม พาวเวล ประธานเฟด ก็ได้ส่งสัญญาณการปรับลดอัตราดอกเบี้ย ท่ามกลางความตึงเครียดทางการค้าระหว่างสหรัฐและจีน
นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่า เฟดจะคงอัตราดอกเบี้ยในการประชุมกำหนดนโยบายการเงินในวันที่ 18-19 มิ.ย.
FedWatch ซึ่งเป็นเครื่องมือวิเคราะห์ภาวะการซื้อขายสัญญาฟิวเจอร์อัตราดอกเบี้ยสหรัฐของ CME Group บ่งชี้ว่า นักลงทุนคาดการณ์ว่า มีโอกาส 79% ที่เฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยอย่างเร็วที่สุดในเดือนก.ค. และมีโอกาส 90% ที่เฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยในเดือนก.ย. และมีโอกาส 97% ที่เฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยอีกครั้งในเดือนธ.ค.
อย่างไรก็ดี นักวิเคราะห์ของยูบีเอสคาดการณ์ว่า เฟดจะไม่ปรับลดอัตราดอกเบี้ยในปีนี้ ซึ่งสวนทางมุมมองของตลาดการเงิน
ยูบีเอสเตือนว่า การคาดการณ์ของตลาดเกี่ยวกับการปรับลดอัตราดอกเบี้ยของเฟดจะไม่เกิดขึ้นจริง เนื่องจากตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐที่มีการเปิดเผยในระยะนี้ เป็นตัวเลขเศรษฐกิจที่"ผสมผสาน" แทนที่จะเป็นตัวเลขเศรษฐกิจที่อ่อนแอเพียงอย่างเดียว ซึ่งจะไม่เพียงพอที่จะทำให้เฟดปรับลดอัตราดอกเบี้ยในเร็วๆนี้
"ในมุมมองของเรา เราเห็นว่าการคาดการณ์ของตลาดเกี่ยวกับการที่เฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยรวม 1.00% ภายในปีหน้า เป็นการคาดการณ์ที่มากเกินจริง โดยในขณะที่เฟดถูกบังคับให้สนับสนุนการขยายตัวทางเศรษฐกิจ ท่ามกลางความขัดแย้งทางการค้าระหว่างสหรัฐและจีนที่สร้างความเสียหายต่อการใช้จ่ายด้านทุน และการจ้างงาน แต่เราก็ไม่คาดว่าเฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยในเร็วๆนี้" นายมาร์ค แฮเฟเล หัวหน้าเจ้าหน้าที่ฝ่ายการลงทุนของยูบีเอส กล่าว
นายแฮเฟเลยังได้ระบุถึงตัวเลขว่างงานที่ระดับ 3.6% ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดในรอบ 50 ปี ขณะที่ตลาดแรงงานยังคงแข็งแกร่ง และผู้บริโภคมีความเชื่อมั่นในระดับสูง
ความเห็นดังกล่าวของยูบีเอสสอดคล้องกับที่โกลด์แมน แซคส์ระบุในวันจันทร์ว่า เฟดจะยังคงตรึงอัตราดอกเบี้ยในปีนี้ โดยคำพูดของนายเจอโรม พาวเวล ประธานเฟด ไม่ได้เป็นการส่งสัญญาณถึงการปรับลดอัตราดอกเบี้ยที่จะเกิดขึ้นในไม่ช้า