ตลาดหุ้นยุโรปปิดลดลงเมื่อคืนนี้ (14 มิ.ย.) โดยหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีนำตลาดปรับตัวลง หลังบริษัทบรอดคอม ซึ่งเป็นบริษัทผลิตชิพของสหรัฐเปิดเผยรายได้ต่ำกว่าคาด และปรับลดตัวเลขคาดการณ์รายได้สำหรับปีงบการเงินปัจจุบัน นอกจากนี้ ตลาดยังถูกกดดันจากการที่จีนเปิดเผยข้อมูลการผลิตภาคอุตสาหกรรมเดือนพ.ค.เพิ่มขึ้นน้อยกว่าคาด
ดัชนี Stoxx Europe 600 ลดลง 0.40% ปิดที่ 378.81 จุด
ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 5,367.62 จุด ลดลง 8.01 จุด หรือ -0.15% ขณะที่ ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมันปิดที่ 12,096.40 จุด ลดลง 72.65 จุด หรือ -0.60% และ ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,345.78 จุด ลดลง 22.79 จุด หรือ -0.31%
หุ้นกลุ่มชิพถ่วงตลาดปรับตัวลง หลังบริษัทบรอดคอมเปิดเผยรายได้ต่ำกว่าคาดสำหรับไตรมาส 2 ของปีงบการเงินบริษัท ซึ่งสิ้นสุดในวันที่ 5 พ.ค. และปรับลดตัวเลขคาดการณ์รายได้สำหรับปีงบการเงินปัจจุบัน โดยบรอดคอมระบุว่า บริษัทมีกำไรที่ระดับ 5.21 ดอลลาร์/หุ้น สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ที่ระดับ 5.16 ดอลลาร์/หุ้น
อย่างไรก็ดี บริษัทมีรายได้ที่ระดับ 5.52 พันล้านดอลลาร์ ต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ที่ระดับ 5.68 พันล้านดอลลาร์
นอกจากนี้ บริษัทยังได้ปรับลดตัวเลขคาดการณ์รายได้สำหรับปีงบการเงินปัจจุบัน สู่ระดับ 2.250 หมื่นล้านดอลลาร์ จากเดิมที่ระดับ 2.450 หมื่นล้านดอลลาร์ โดยต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ที่ระดับ 2.431 หมื่นล้านดอลลาร์
หุ้นกลุ่มเทคโนโลยีของยุโรปรับตัวลงตามกัน โดยหุ้นอินฟิเนียน ร่วง 5.40% หุ้นเอเอ็มเอส ปรับตัวลง 3.31% หุ้นเอสทีไมโครอิเล็กทรอนิกส์ ร่วงลง 3.05% หุ้นซิลทรอนิก ดิ่งลง 5.53% และ หุ้นไดอาล็อก เซมิคอนดักเตอร์ ลดลง 2.53%
การเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจจีนที่ต่ำกว่าคาดกดดันตลาดด้วย โดยสำนักงานสถิติแห่งชาติจีน (NBS) รายงานว่า การผลิตภาคอุตสาหกรรมเดือนพ.ค. ปรับตัวขึ้น 5% เมื่อเทียบเป็นรายปี ซึ่งชะลอตัวลงจากเดือนเม.ย.ที่มีการขยายตัว 5.4% และต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าจะขยายตัว 5.4%
ส่วนในช่วง 5 เดือนแรกปีนี้ การผลิตภาคอุตสาหกรรมปรับตัวขึ้น 6% เมื่อเทียบรายปี ซึ่งขยายตัวน้อยกว่าในช่วง 4 เดือนแรกอยู่ 0.2%
หุ้นกลุ่มเหมืองแร่และกลุ่มรถยนต์ของยุโรปปรับตัวลงด้วยจากความวิตกเกี่ยวกับความขัดแย้งด้านการค้าระหว่างสหรัฐและจีน โดยหุ้นเกล็นคอร์ ลบ 0.35% หุ้นริโอ ทินโต ลดลง 0.75% และ หุ้นแองโกล อเมริกัน ติดลบ 0.047%
ส่วนหุ้นเฟียต ไครสเลอร์ ลบ 0.47% และ หุ้นเดมเลอร์ เอจี ร่วง 1.57%