ตลาดหุ้นลอนดอนปิดลดลงเมื่อคืนนี้ (14 มิ.ย.) โดยหุ้นกลุ่มธนาคารและกลุ่มส่งออกนำตลาดปรับตัวลง หลังถูกกดดันจากการที่จีนเปิดเผยข้อมูลการผลิตภาคอุตสาหกรรมเดือนพ.ค.เพิ่มขึ้นน้อยกว่าคาด
ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,345.78 จุด ลดลง 22.79 จุด หรือ -0.31%
ตลาดปรับตัวลง โดยถูกกดดันหลังจากสำนักงานสถิติแห่งชาติจีน (NBS) รายงานว่า การผลิตภาคอุตสาหกรรมเดือนพ.ค. ปรับตัวขึ้น 5% เมื่อเทียบเป็นรายปี ซึ่งชะลอตัวลงจากเดือนเม.ย.ที่มีการขยายตัว 5.4% และต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าจะขยายตัว 5.4%
ส่วนในช่วง 5 เดือนแรกปีนี้ การผลิตภาคอุตสาหกรรมของจีนปรับตัวขึ้น 6% เมื่อเทียบรายปี ซึ่งขยายตัวน้อยกว่าในช่วง 4 เดือนแรกอยู่ 0.2%
หุ้นกลุ่มธนาคารและกลุ่มส่งออกที่ทำธุรกิจในเอเชียปรับตัวลง เนื่องจากความวิตกเกี่ยวกับผลกระทบของความขัดแย้งด้านการค้าระหว่างสหรัฐและจีน โดยหุ้นเอชเอสบีซี ลบ 0.78% และ หุ้นพรูเดนเชียล ลดลง 0.10%
หุ้น Kier Group ซึ่งเป็นบริษัทก่อสร้างบ้าน ดิ่งลง 35.50% หลังหนังสือพิมพ์ไทมส์รายงานว่า บริษัทกำลังเตรียมที่จะขายธุรกิจสร้างบ้านในราคาถูกเพื่อลดภาระหนี้สินของบริษัท