ตลาดหุ้นลอนดอนปิดปรับตัวขึ้นเมื่อคืนนี้ (17 มิ.ย.) โดยได้แรงหนุนจากหุ้นกลุ่มธนาคารที่ดีดตัวขึ้น ขณะที่นักลงทุนมุ่งความสนใจไปที่การประชุมของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ในวันที่ 18-19 มิ.ย.นี้ แต่ตลาดถูกกดดันจากหุ้นกลุ่มสายการบินที่ร่วงลง หลังจากสายการบินลุฟต์ฮันซาของเยอรมนี ประกาศเตือนเกี่ยวกับแนวโน้มผลกำไรในปีนี้
ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,357.31 จุด เพิ่มขึ้น 11.53 จุด หรือ +0.16%
ตลาดปรับตัวขึ้นตามหุ้นกลุ่มธนาคาร ขณะที่นักลงทุนมุ่งความสนใจไปที่การประชุมกำหนดนโยบายการเงินของเฟดในสัปดาห์นี้ โดยหุ้นสแตนดาร์ด ชาร์เตอร์ด บวก 1.89% และหุ้นบาร์เคลย์ส เพิ่มขึ้น 1.74%
แต่หุ้นกลุ่มสายการบินปรับตัวลง หลังจากสายการบินลุฟต์ฮันซาปรับลดคาดการณ์แนวโน้มผลกำไรของทั้งปีนี้ โดยระบุถึงการแข่งขันด้านราคาที่รุนแรงจากคู่แข่งที่เป็นสายการบินต้นทุนต่ำในยุโรป โดยหุ้นอินเตอร์เนชันแนล คอนโซลิเดเต็ด แอร์ไลน์ส (IAG) ลดลง 2.19% และ หุ้นอีซีเจ็ต ร่วง 4.37%
บรรดานักลงทุนจับตาการประชุมกำหนดนโยบายการเงินของเฟดในวันอังคารและพุธนี้ ขณะที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดการณ์ว่า เฟดจะคงอัตราดอกเบี้ยในการประชุมครั้งนี้
อย่างไรก็ดี FedWatch ซึ่งเป็นเครื่องมือวิเคราะห์ภาวะการซื้อขายสัญญาฟิวเจอร์อัตราดอกเบี้ยสหรัฐของ CME Group บ่งชี้ว่า นักลงทุนคาดการณ์ว่า มีโอกาส 79% ที่เฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยอย่างเร็วที่สุดในเดือนก.ค. และมีโอกาส 90% ที่เฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยในเดือนก.ย. และมีโอกาส 97% ที่เฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยอีกครั้งในเดือนธ.ค.