ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นกว่า 200 จุดเมื่อคืนนี้ (20 มิ.ย.) ขณะที่ดัชนี S&P500 ทำสถิติปิดที่ระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ ขานรับธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ที่ส่งสัญญาณปรับลดอัตราดอกเบี้ยในเดือนหน้า โดยมีเป้าหมายที่จะพยุงเศรษฐกิจให้เติบโตอย่างต่อเนื่อง นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับแรงหนุนจากการพุ่งขึ้นของหุ้นกลุ่มพลังงาน หลังจากราคาน้ำมันดิบทะยานขึ้นกว่า 5%
ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 26,753.17 จุด เพิ่มขึ้น 249.17 จุด หรือ +0.94% ขณะที่ดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,954.18 จุด เพิ่มขึ้น 27.72 จุด หรือ +0.95% และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 8,051.34 จุด เพิ่มขึ้น 64.02 จุด หรือ +0.80%
นักลงทุนยังคงเข้าซื้อหุ้นอย่างคึกคัก หลังจากที่ประชุมเฟดมีมติคงอัตราดอกเบี้ยระยะสั้นที่ระดับ 2.25-2.50% ในการประชุมเมื่อวันพุธที่ผ่านมา พร้อมกับส่งสัญญาณปรับลดอัตราดอกเบี้ย 0.50% ในช่วงครึ่งหลังของปีนี้ ท่ามกลางความไม่แน่นอนของภาวะเศรษฐกิจ และการคาดการณ์เงินเฟ้อที่ลดลง
นายเจอโรม พาวเวล ประธานเฟดได้แถลงข่าวต่อสื่อมวลชนภายหลังการประชุมว่า การผ่อนคลายนโยบายการเงินเพิ่มเติมนั้น มีแนวโน้มอย่างมากที่จะเกิดขึ้น เนื่องจากเฟดมีความกังวลเกี่ยวกับสถานการณ์การค้าและแนวโน้มเศรษฐกิจโลก ขณะที่ภาคธุรกิจมีความกังวลเกี่ยวกับสงครามการค้าและผลกระทบที่มีต่อเศรษฐกิจโลก นอกจากนี้ นายพาวเวลย้ำว่า อัตราเงินเฟ้อยังคงอยู่ในระดับต่ำ และเฟดยังไม่เห็นสัญญาณใดๆที่บ่งชี้ว่าอัตราเงินเฟ้อจะดีดตัวขึ้นในเร็วๆนี้
หุ้นกลุ่มพลังงานพุ่งขึ้นหลังจากราคาน้ำมันดิบ WTI ทะยานขึ้นกว่า 5% เมื่อคืนนี้ อันเนื่องมาจากข่าวอิหร่านยิงโดรนของกองทัพสหรัฐ โดยหุ้นเอ็กซอน โมบิล พุ่งขึ้น 1.7% หุ้นเชฟรอน เพิ่มขึ้น 1.1% หุ้นเชซาพีค เอนเนอร์จี พุ่งขึ้น 7.9% หุ้นเดวอน เอนเนอร์จี พุ่งขึ้น 4.3% หุ้นมาราธอน ปิโตรเลียม พุ่งขึ้น 4.6% หุ้นอ็อคซิเดนเชียล ปิโตรเลียม เพิ่มขึ้น 1.9% หุ้นฮัลลิเบอร์ตัน พุ่งขึ้น 4.8%
หุ้นกลุ่มเทคโนโลยีดีดตัวขึ้น นำโดยหุ้นออราเคิล พุ่งขึ้น 8.1% หลังจากบริษัทเปิดเผยผลประกอบการที่ดีเกินคาดในไตรมาสแรก ขณะที่หุ้นเฟซบุ๊ก พุ่งขึ้น 1.1% หุ้นอินเทล เพิ่มขึ้น 0.25% หุ้นบรอดคอม เพิ่มขึ้น 0.5% หุ้นไมครอน เทคโนโลยี เพิ่มขึ้น 0.6% หุ้น Nvidia เพิ่มขึ้น 0.6% หุ้นไมโครซอฟท์ เพิ่มขึ้น 0.9% หุ้นอัลฟาเบท ซึ่งเป็นบริษัทแม่ของกูเกิล เพิ่มขึ้น 0.79% และหุ้นแอปเปิล ปรับตัวขึ้น 0.8%
หุ้นสแลค เทคโนโลยีส์ ซึ่งเป็นผู้ผลิตซอฟต์แวร์สำหรับภาคธุรกิจ ทะยานขึ้น 49% ปิดที่ระดับ 38.62 ดอลลาร์ต่อหุ้น ในการซื้อขายวันแรกเมื่อคืนนี้ โดยราคาปิดตลาดอยู่ในระดับสูงกว่าราคาเสนอขายซึ่งอยู่ที่ 26 ดอลลาร์ต่อหุ้น
หุ้นเทสลา ร่วงลง 3.01% หลังจากโกลด์แมน แซคส์ ได้ปรับลดเป้าหมายราคาหุ้นเทสลาลงสู่ระดับ 158 ดอลลาร์ต่อหุ้น เนื่องจากความกังวลเกี่ยวกับยอดขายในระยะยาวของเทสลา
ตลาดหุ้นนิวยอร์กยังได้รับปัจจัยหนุนจากข้อมูลที่บ่งชี้ถึงความแข็งแกร่งของตลาดแรงงานสหรัฐ โดยกระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่า จำนวนชาวอเมริกันที่ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรกลดลง 6,000 ราย สู่ระดับ 216,000 รายในสัปดาห์ที่แล้ว ขณะที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าจะลดลงสู่ระดับ 220,000 ราย
สำหรับข้อมูลเศรษฐกิจด้านอื่นๆที่มีการเปิดเผยเมื่อคืนนี้ ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) สาขาฟิลาเดลเฟีย เปิดเผยดัชนีภาวะธุรกิจในภูมิภาคมิด-แอตแลนติก ดิ่งลงสู่ระดับ 0.3 ในเดือนมิ.ย. ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนก.พ. ขณะที่กระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยว่า ตัวเลขขาดดุลบัญชีเดินสะพัดของสหรัฐลดลงสู่ระดับ 1.304 แสนล้านดอลลาร์ในไตรมาสแรก จากระดับ 1.4393 แสนล้านดอลลาร์ในไตรมาส 4 ของปีที่แล้ว
ส่วนข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐที่มีกำหนดเปิดเผยในคืนนี้ได้แก่ ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตขั้นต้นเดือนมิ.ย.จากมาร์กิต, ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคบริการขั้นต้นเดือนมิ.ย.จากมาร์กิต และยอดขายบ้านมือสองเดือนพ.ค.