ตลาดหุ้นยุโรปปิดบวกเมื่อคืนนี้ (20 มิ.ย.) โดยได้แรงหนุนจากการที่ธนาคารกลางอังกฤษ (BOE) และธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ส่งสัญญาณผ่อนคลายนโยบายการเงิน นอกจากนี้ ความหวังเกี่ยวกับการเริ่มเจรจาการค้าสหรัฐ-จีนรอบใหม่ ได้ช่วยหนุนตลาดด้วย
ดัชนี Stoxx Europe 600 บวก 0.36% ปิดที่ 386.16 จุด
ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 5,535.57 จุด เพิ่มขึ้น 17.13 จุด หรือ +0.31% ขณะที่ ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมันปิดที่ 12,355.39 จุด เพิ่มขึ้น 46.86 จุด หรือ +0.38% และ ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,424.44 จุด เพิ่มขึ้น 20.90 จุด หรือ +0.28%
ตลาดปรับตัวขึ้นขานรับแนวโน้มที่เฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงในเดือนหน้าและหลังจากนั้น ขณะที่ BOE มีมติเอกฉันท์ 9-0 เสียงให้คงอัตราดอกเบี้ยนโยบายที่ระดับ 0.75% ตามการคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ แต่ประกาศปรับลดตัวเลขคาดการณ์การขยายตัวของเศรษฐกิจอังกฤษในช่วงไตรมาส 2 สู่ระดับ 0% เมื่อเทียบรายไตรมาส จากเดิมที่คาดการณ์ในเดือนที่แล้วที่ระดับ 0.2% โดยระบุถึงความเสี่ยงที่เพิ่มขึ้นจากความตึงเครียดทางการค้าระหว่างประเทศ และการที่อังกฤษอาจแยกตัวออกจากสหภาพยุโรป (Brexit) โดยไม่มีการทำข้อตกลง ซึ่งทำให้ตลาดคลายความวิตกเกี่ยวกับแนวโน้มที่ BOE จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเร็วๆ นี้
นอกจากนี้ สัญญาณที่บ่งชี้ว่าสหรัฐและจีนจะกลับมาเจรจาการค้ากันอีกนั้น ได้ช่วยหนุนตลาดด้วย โดยหุ้นกลุ่มรถยนต์และกลุ่มเทคโนโลยีปรับตัวขึ้นขานรับข่าวดังกล่าว
หุ้นเฟียต ไครสเลอร์ บวก 1.21% หุ้นเดมเลอร์ เอจี เพิ่มขึ้น 0.35% และหุ้นเรโนลต์ ปรับตัวขึ้น 0.49% หุ้นเอสเอพี ซึ่งเป็นบริษัทซอฟท์แวร์ของเยอรมนี บวก 1.49% โดยได้แรงหนุน หลังบริษัทออราเคิลซึ่งเป็นคู่แข่ง คาดการณ์ผลกำไรในไตรมาสปัจจุบันสูงกว่าคาด