ดัชนีดาวโจนส์ปรับตัวแคบ ขณะที่นักลงทุนรอถ้อยแถลงของนายเจอโรม พาวเวล ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ในคืนนี้ ซึ่งจะบ่งชี้แนวโน้มเศรษฐกิจ และทิศทางนโยบายอัตราดอกเบี้ยของเฟด
ณ เวลา 20.55 น.ตามเวลาไทย ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์อยู่ที่ 26,694.48 จุด ลบ 33.06 จุด หรือ 0.12%
ทั้งนี้ นายพาวเวลมีกำหนดกล่าวสุนทรพจน์ที่สภาวิเทศสัมพันธ์ในวันนี้ เวลา 13.00 น.ตามเวลาสหรัฐ หรือเที่ยงคืนนี้ตามเวลาไทย
มีการคาดการณ์กันว่า นายพาวเวลจะกล่าวเกี่ยวกับแนวโน้มเศรษฐกิจ และทิศทางนโยบายการเงินของเฟดในวันนี้
การกล่าวสุนทรพจน์ของนายพาวเวลมีขึ้น หลังจากที่เฟดประกาศคงอัตราดอกเบี้ยในการประชุมสัปดาห์ที่แล้ว พร้อมกับส่งสัญญาณปรับลดอัตราดอกเบี้ยในช่วงครึ่งปีหลัง ขณะที่นักลงทุนคาดการณ์ว่าเฟดมีแนวโน้ม 100% ที่จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยในการประชุมเดือนหน้า
นอกจากนี้ นายพาวเวลยังมีกำหนดกล่าวแถลงการณ์รอบครึ่งปีว่าด้วยนโยบายการเงินและภาวะเศรษฐกิจสหรัฐต่อสภาคองเกรสในเดือนหน้า
ทั้งนี้ นายพาวเวลจะกล่าวถ้อยแถลงต่อคณะกรรมาธิการบริการการเงินประจำสภาผู้แทนราษฎรในวันที่ 10 ก.ค. และต่อคณะกรรมาธิการการธนาคารประจำวุฒิสภาในวันที่ 11 ก.ค.
นักลงทุนจับตาถ้อยแถลงของนายพาวเวล เพื่อหาสัญญาณบ่งชี้ภาวะเศรษฐกิจ และอัตราเงินเฟ้อ รวมทั้งทิศทางอัตราดอกเบี้ยสหรัฐในปีนี้
ขณะเดียวกัน ตลาดยังจับตาการพบปะกันระหว่างประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ และประธานาธิบดีสี จิ้นผิง นอกรอบการประชุม G20 ที่ญี่ปุ่นในสัปดาห์นี้
นายหวัง โส่วเหวิน รมช.พาณิชย์จีน กล่าวว่า คณะเจรจาการค้าของจีนกำลังหารือกับตัวแทนจากทางสหรัฐเกี่ยวกับการแก้ไขความขัดแย้งทางการค้าก่อนการพบปะกันระหว่างประธานาธิบดีสี จิ้นผิง และประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ในการประชุม G20
นายหวังระบุว่า ทั้งสองฝ่ายต้องการสร้างความคืบหน้าจากการสนทนาทางโทรศัพท์ระหว่างผู้นำของจีนและสหรัฐในสัปดาห์ที่แล้ว
การประชุมสุดยอด G20 จะมีขึ้นที่นครโอซากา ประเทศญี่ปุ่น ในวันที่ 28-29 มิ.ย.
ทั้งนี้ กลุ่ม G20 ประกอบด้วย อาร์เจนตินา ออสเตรเลีย บราซิล สหราชอาณาจักร แคนาดา จีน ฝรั่งเศส เยอรมนี อินเดีย อินโดนีเซีย อิตาลี ญี่ปุ่น เม็กซิโก รัสเซีย ซาอุดีอาระเบีย แอฟริกาใต้ เกาหลีใต้ ตุรกี สหรัฐ และสหภาพยุโรป
การเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐและจีนประสบความล้มเหลวในเดือนที่แล้ว โดยที่ประชุมไม่สามารถบรรลุข้อตกลงการค้า ขณะที่สหรัฐได้เพิ่มการเรียกเก็บภาษีต่อสินค้านำเข้าจากจีนวงเงิน 2 แสนล้านดอลลาร์ สู่ระดับ 25% จากเดิมที่ระดับ 10% ส่งผลให้จีนทำการตอบโต้ ด้วยการเพิ่มการเรียกเก็บภาษีต่อสินค้านำเข้าจากสหรัฐวงเงิน 6 หมื่นล้านดอลลาร์ สู่ระดับ 25% จากเดิมที่ระดับ 10%
นอกจากนี้ สหรัฐได้ขึ้นบัญชีดำบริษัทหัวเว่ย เทคโนโลยี่ ทำให้บริษัทไม่สามารถซื้อสินค้าจากสหรัฐ และสหรัฐยังได้เพิ่มรายชื่อบริษัทจีนอีก 5 แห่งเข้าไปในบัญชีดำดังกล่าวในสัปดาห์ที่แล้ว