ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดลบเมื่อคืนนี้ (25 มิ.ย.) เนื่องจากนักลงทุนผิดหวังที่นายเจอโรม พาวเวล ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ไม่ได้ส่งสัญญาณปรับลดอัตราดอกเบี้ยในการกล่าวสุนทรพจน์เมื่อวานนี้ นอกจากนี้ การร่วงลงของหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีและข้อมูลเศรษฐกิจที่อ่อนแอของสหรัฐยังเป็นปัจจัยฉุดตลาดเช่นกัน ขณะที่นักลงทุนจับตาการพบปะกันระหว่างประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์แห่งสหรัฐ และประธานาธิบดีสี จิ้นผิงของจีน นอกรอบการประชุม G20 ที่ประเทศญี่ปุ่นในช่วงสุดสัปดาห์นี้
ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 26,548.22 จุด ลดลง 179.32 จุด หรือ -0.67% ขณะที่ดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,917.38 จุด ลดลง 27.97 จุด หรือ -0.95% ขณะที่ดัชนี Nasdaq ปิดที่ 7,884.72 จุด ลดลง 120.98 จุด หรือ -1.51%
ตลาดหุ้นนิวยอร์กร่วงลงเนื่องจากนักลงทุนผิดหวังที่นายพาวเวลไม่ได้ส่งสัญญาณเกี่ยวกับการปรับลดอัตราดอกเบี้ย ในระหว่างการกล่าวสุนทรพจน์ที่สภาวิเทศสัมพันธ์ในกรุงนิวยอร์กเมื่อวานนี้ โดยนายพาวเวลกล่าวเพียงว่า เฟดกำลังประเมินว่าความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจในปัจจุบันเป็นปัจจัยสนับสนุนการปรับลดอัตราดอกเบี้ยหรือไม่ และเฟดกำลังใช้ท่าทีรอคอยและจับตาดูสถานการณ์ ท่ามกลางการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วทางเศรษฐกิจในระยะนี้
ทางด้านนายเจมส์ บูลลาร์ด ประธานเฟด สาขาเซนต์หลุยส์ ได้แสดงความเห็นคัดค้านการที่เฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ย 0.50% ในการประชุมเดือนก.ค. เพราะไม่คิดว่าสถานการณ์ในขณะนี้จะทำให้เฟดต้องลดอัตราดอกเบี้ยมากขนาดนั้นได้
นอกจากนี้ ตลาดยังยังได้รับแรงกดดันจากข้อมูลเศรษฐกิจที่อ่อนแอของสหรัฐ โดยกระทรวงพาณิชย์สหรัฐรายงานว่า ยอดขายบ้านใหม่ร่วงลง 7.8% ในเดือนพ.ค. เมื่อเทียบรายเดือน สู่ระดับ 626,000 ยูนิต ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนธ.ค.ปีที่แล้ว ขณะที่ผลสำรวจของ Conference Board ระบุว่า ดัชนีความเชื่อมั่นของผู้บริโภคสหรัฐปรับตัวลงสู่ระดับ 121.5 ในเดือนมิ.ย. ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนก.ย.2560
หุ้นกลุ่มเทคโนโลยีร่วงลงและเป็นปัจจัยที่ฉุดตลาดดิ่งลงเช่นกัน โดยหุ้นเฟซบุ๊ก ร่วงลง 1.9% หุ้นแอปเปิล ลดลง 1.5% หุ้นอเมซอนดอทคอม ร่วงลง 1.8% หุ้นเน็ตฟลิกซ์ ดิ่งลง 2.9% และหุ้นอัลฟาเบท ร่วงลง 2.6% หุ้นไมครอน เทคโนโลยี ลดลง 1.5% หุ้น Nvidia ลดลง 0.7% และหุ้นแอดวานซ์ ไมโคร ดิไวซ์ (เอเอ็มดี) ดิ่งลง 1.3% หุ้นอินเทล ร่วงลง 1.6%
หุ้นกลุ่มธนาคารร่วงลง หลังจากอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 10 ปีดิ่งลงต่ำกว่า 2% เมื่อคืนนี้ โดยหุ้นซิตี้กรุ๊ป ร่วงลง 1.3% หุ้นโกลด์แมน แซคส์ ปรับตัวลง 0.7% หุ้นมอร์แกน สแตนลีย์ ลดลง 0.9% หุ้นเวลส์ ฟาร์โก ขยับลง 0.3% หุ้นเจพีมอร์แกน เชส ลดลง 0.8% และหุ้นแบงก์ ออฟ อเมริกา ปรับตัวลง 0.8%
หุ้นเฟดเอ็กซ์ ร่วงลง 3.06% หลังจากทางการจีนเรียกร้องให้เฟดเอ็กซ์ ซึ่งบริษัทขนส่งรายใหญ่ของสหรัฐ อธิบายสาเหตุของความผิดพลาดเกี่ยวกับการจัดส่งพัสดุของบริษัทหัวเว่ย ขณะที่นักลงทุนจับตาการรายงานผลประกอบการของเฟดเอ็กซ์ซึ่งจะมีการเปิดเผยหลังตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดทำการซื้อขายแล้ว
หุ้นไทสัน ฟู้ดส์ และหุ้นพิลกริมส์ ไพร์ด คอร์ป ดิ่งลง 1.1% และ 1.3% ตามลำดับ หลังจากมีรายงานว่ากระทรวงยุติธรรมสหรัฐเตรียมตรวจสอบกรณีการกำหนดราคาสัตว์ปีก
นักลงทุนจับตาการพบปะกันระหว่างปธน.ทรัมป์ และปธน.สี จิ้นผิง นอกรอบการประชุม G20 ที่ญี่ปุ่นในสัปดาห์นี้ โดยมีการคาดการณ์กันว่า ผู้นำสหรัฐและจีนจะพบปะกันในวันเสาร์นี้ ซึ่งจะเป็นการพบกันครั้งแรกนับตั้งแต่ที่การเจรจาการค้าของทั้งสองฝ่ายยุติลงในเดือนที่แล้ว
นอกจากนี้ นักลงทุนยังจับตาข้อมูลเศรษฐกิจของสหรัฐที่มีกำหนดเปิดเผยในสัปดาห์นี้ ซึ่งได้แก่ ยอดสั่งซื้อสินค้าคงทนเดือนพ.ค.,สต็อกสินค้าคงคลังภาคค้าส่งเดือนพ.ค., จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์, ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ไตรมาส 1/2562, ยอดทำสัญญาขายบ้านที่รอปิดการขาย (pending home sales) เดือนพ.ค., ดัชนีราคาการใช้จ่ายเพื่อการบริโภคส่วนบุคคล (PCE) เดือนพ.ค., การใช้จ่ายส่วนบุคคลเดือนพ.ค. และความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือนมิ.ย.จากมหาวิทยาลัยมิชิแกน