ตลาดหุ้นลอนดอนปิดปรับตัวขึ้นเล็กน้อยเมื่อคืนนี้ (25 มิ.ย.) โดยได้แรงหนุนจากการปรับตัวขึ้นของหุ้นกลุ่มเหมืองแร่และกลุ่มน้ำมัน ขณะที่ตลาดยังคงวิตกเกี่ยวกับความตึงเครียดระหว่างสหรัฐและอิหร่าน และความขัดแย้งด้านการค้าระหว่างสหรัฐและจีน
ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,422.43 จุด เพิ่มขึ้น 5.74 จุด หรือ +0.08%
ตลาดปรับตัวขึ้นตามหุ้นกลุ่มเหมือง หลังการสไตรค์ที่เหมืองทองแดงในชิลีทำให้เกิดความวิตกเกี่ยวกับอุปทาน ซึ่งหนุนราคาทองแดงพุ่งขึ้น ขณะที่หุ้นกลุ่มน้ำมันปรับตัวขึ้นตามราคาน้ำมันจากการคาดการณ์สต็อกน้ำมันดิบสหรัฐลดลง
อย่างไรก็ตาม นักลงทุนในตลาดยังคงกังวลกับความตึงเครียดระหว่างสหรัฐและอิหร่าน หลังนายมาจิด ทาคห์ ราวานชี เอกอัครราชทูตผู้แทนถาวรของอิหร่านประจำสหประชาชาติกล่าวว่า ขณะนี้ การเจรจากับสหรัฐแทบเป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้ หลังจากที่สหรัฐได้เพิ่มการคว่ำบาตรต่ออิหร่าน พร้อมกับเตือนด้วยว่า ขณะนี้สถานการณ์ในอ่าวเปอร์เซียอันตรายเป็นอย่างยิ่ง
ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ลงนามในคำสั่งประธานาธิบดีเมื่อวันจันทร์เพื่อทำการคว่ำบาตรต่ออิหร่าน ในการตอบโต้ต่อการที่อิหร่านยิงโดรนของสหรัฐเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว
นอกจากนี้ นักลงทุนยังคงวิตกกับความไม่แน่นอนเกี่ยวกับการเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐและจีน โดย นายหวัง โส่วเหวิน รมช.พาณิชย์จีน กล่าวว่า คณะเจรจาการค้าของจีนกำลังหารือกับตัวแทนจากทางสหรัฐเกี่ยวกับการแก้ไขความขัดแย้งทางการค้าก่อนการพบปะกันระหว่างปธน.สี และปธน.ทรัมป์ ในการประชุม G20 ที่นครโอซากา ประเทศญี่ปุ่น ในวันที่ 28-29 มิ.ย.นี้
หุ้นกลุ่มเหมืองปรับตัวขึ้น โดยหุ้นริโอ ทินโต บวก 0.46% และ หุ้นแองโกล อเมริกัน เพิ่มขึ้น 0.21%
ส่วนหุ้นกลุ่มน้ำมันดีดตัวขึ้นด้วย โดยหุ้นบีพี บวก 0.13% หุ้นเชลล์ เพิ่มขึ้น 0.36%