ดาวโจนส์ดีดตัว เก็ง"ทรัมป์-สี จิ้นผิง"ปิดดีลการค้าในเวที G20 เสาร์นี้

ข่าวหุ้น-การเงิน Wednesday June 26, 2019 21:26 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ดัชนีดาวโจนส์ดีดตัวขึ้นในวันนี้ จากการคาดการณ์ที่ว่า สหรัฐและจีนใกล้บรรลุข้อตกลงทางการค้า

ณ เวลา 21.16 น.ตามเวลาไทย ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์อยู่ที่ 26,581.96 จุด บวก 33.74 จุด หรือ 0.13%

หุ้นกลุ่มพลังงานและเทคโนโลยีพุ่งขึ้นนำตลาดในวันนี้

นายสตีเวน มนูชิน รมว.คลังสหรัฐ กล่าวว่า สหรัฐและจีนใกล้บรรลุข้อตกลงการค้าแล้ว

"เราทำข้อตกลงได้ราว 90% แล้ว และผมคิดว่าเรามีทางที่จะบรรลุข้อตกลงโดยสมบูรณ์" นายมนูชินกล่าวต่อสำนักข่าว CNBC

นายมนูชินกล่าวว่า เขามีความเชื่อมั่นว่า ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ และประธานาธิบดีสี จิ้นผิงจะสามารถสร้างความคืบหน้าต่อการเจรจาการค้าในการประชุม G20 ที่นครโอซากา ประเทศญี่ปุ่น ในช่วงสุดสัปดาห์นี้

"พวกเขาต้องการกลับสู่โต๊ะเจรจา และดำเนินการเจรจาต่อไป เพราะจะเป็นผลดีต่อเศรษฐกิจของพวกเขา และเศรษฐกิจของสหรัฐ หากมีการค้าที่สมดุล และเรารักษาความสัมพันธ์นี้ต่อไป" นายมนูชินกล่าว

อย่างไรก็ดี นายมนูชินไม่ได้เปิดเผยปัญหาติดขัดอีก 10% ในการเจรจาการค้าแต่อย่างใด

ทางด้านประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์แสดงความมั่นใจในวันนี้ เกี่ยวกับการบรรลุข้อตกลงทางการค้ากับประธานาธิบดีสี จิ้นผิงในการประชุม G20 ในช่วงสุดสัปดาห์นี้

"มีความเป็นไปได้อย่างแน่นอนที่เราจะได้ข้อตกลงที่ดี" ปธน.ทรัมป์กล่าว

อย่างไรก็ดี ปธน.ทรัมป์ระบุว่า เขามีความสุขกับสถานการณ์ที่เป็นอยู่ในขณะนี้ และเขาพร้อมที่จะเรียกเก็บภาษีต่อสินค้านำเข้าทั้งหมดจากจีน หากไม่มีการบรรลุข้อตกลงกับจีน

ทั้งนี้ ในการให้สัมภาษณ์ต่อสำนักข่าวฟ็อกซ์ ปธน.ทรัมป์กล่าวว่า "ผมมีความสุขมากต่อสิ่งที่กำลังเป็นอยู่ เรากำลังได้เงินภาษีก้อนโต ซึ่งไม่เป็นเรื่องที่ดีสำหรับจีน แต่เป็นเรื่องดีสำหรับเรา"

"ผมมีมุมมองเกี่ยวกับการเก็บภาษีนำเข้าสินค้าแตกต่างจากคนอื่น โดยนับตั้งแต่ที่สหรัฐเรียกเก็บภาษี 25% ต่อสินค้านำเข้าจากจีนมูลค่า 2.5 แสนล้านดอลลาร์ ตลาดของเราก็มีความคึกคัก ขณะที่พวกเขาต้องการที่จะทำข้อตกลงมากกว่าพวกเรา" ปธน.ทรัมป์กล่าว

หากทั้งสองฝ่ายยังคงไม่สามารถบรรลุข้อตกลง ปธน.ทรัมป์กล่าวว่า เขาพร้อมที่จะเรียกเก็บภาษีต่อสินค้านำเข้าจากจีนที่เหลืออีก 3.5 แสนล้านดอลลาร์ แต่ปธน.ทรัมป์กล่าวว่า เขาจะเรียกเก็บภาษีเพียง 10% แทนที่จะเป็น 25%

ส่วนการเปิดเผยตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐในวันนี้ กระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยว่า ยอดสั่งซื้อสินค้าคงทนของสหรัฐ เช่น เครื่องบิน รถยนต์ และเครื่องจักรขนาดใหญ่ที่มีอายุการใช้งานตั้งแต่ 3 ปีขึ้นไป ลดลง 1.3% ในเดือนพ.ค. หลังจากร่วงลง 2.8% ในเดือนเม.ย.

การลดลงของยอดสั่งซื้อสินค้าคงทนในเดือนพ.ค. ได้รับผลกระทบจากการร่วงลงของคำสั่งซื้อในกลุ่มขนส่ง

ส่วนยอดสั่งซื้อสินค้าคงทนพื้นฐาน ซึ่งเป็นคำสั่งซื้อสินค้าทุนที่ไม่รวมเครื่องบิน และสินค้าด้านอาวุธ โดยเป็นสิ่งบ่งชี้แผนการใช้จ่ายของภาคธุรกิจ เพิ่มขึ้น 0.4% ในเดือนพ.ค. ขณะที่นักวิเคราะห์คาดว่าเพิ่มขึ้น 0.1% หลังจากดิ่งลง 1.0% ในเดือนเม.ย.

เมื่อเทียบรายปี ยอดสั่งซื้อสินค้าคงทนพื้นฐานดีดตัวขึ้น 2.3% ในเดือนพ.ค.


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ