ตลาดหุ้นยุโรปปิดลดลงเมื่อคืนนี้ (26 มิ.ย.) เป็นวันที่ 4 ติดต่อกัน เนื่องจากนักลงทุนผิดหวังจากการที่เจ้าหน้าที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) รวมถึงนายเจอโรม พาวเวล ประธานเฟด ไม่ได้ส่งสัญญาณปรับลดอัตราดอกเบี้ยในการกล่าวสุนทรพจน์เมื่อวันอังคารที่ผ่านมา และนักลงทุนยังกังวลกับความขัดแย้งด้านการค้าระหว่างจีนและสหรัฐ
ดัชนี Stoxx Europe 600 ลดลง 0.31% ปิดที่ 382.20 จุด
ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 5,500.72 จุด ลดลง 13.85 จุด หรือ -0.25% ขณะที่ ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมันปิดที่ 7,909.97 จุด เพิ่มขึ้น 25.25 จุด หรือ +0.32% และ ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,416.39 จุด ลดลง 6.04 จุด หรือ -0.08%
ตลาดปรับตัวลงเนื่องจากนักลงทุนผิดหวังที่นายพาวเวลไม่ได้ส่งสัญญาณลดอัตราดอกเบี้ยในการกล่าวสุนทรพจน์ รวมทั้งการที่นายเจมส์ บูลลาร์ด ประธานเฟด สาขาเซนต์หลุยส์ แสดงความเห็นคัดค้านการที่เฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ย 0.50% ในการประชุมเดือนหน้า
นอกจากนี้ ตลาดยังถูกกดดันจากความไม่แน่นอนเกี่ยวกับการเจรจาการค้าระหว่างประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์แห่งสหรัฐและประธานาธิบดีสี จิ้นผิงในการประชุม G20 ในช่วงสุดสัปดาห์นี้ แม้ปธน.ทรัมป์แสดงความมั่นใจเกี่ยวกับการบรรลุข้อตกลงทางการค้ากับปธน.สี โดยระบุว่ามีความเป็นไปได้อย่างแน่นอนที่จะบรรลุข้อตกลงที่ดี
อย่างไรก็ตาม ปธน.ทรัมป์ระบุว่า เขาพร้อมที่จะเรียกเก็บภาษีต่อสินค้านำเข้าทั้งหมดจากจีน หากไม่มีการบรรลุข้อตกลง
หุ้นกลุ่มอสังหาริมทรัพย์ กลุ่มเฮลธ์แคร์ และ กลุ่มสาธารณูปโภค นำตลาดหุ้นยุโรปปรับตัวลง โดยหุ้นโนวาติส ร่วง 2.07% และหุ้นโรช ลดลง 0.65%