ดัชนีดาวโจนส์พุ่งขึ้นกว่า 200 จุดในวันนี้ หลังจากที่สหรัฐและจีนได้ตกลงที่จะระงับการเพิ่มภาษีนำเข้าสินค้าครั้งใหม่ ขณะที่ทั้งสองฝ่ายจะรื้อฟื้นการเจรจาการค้ารอบใหม่
ณ เวลา 20.51 น.ตามเวลาไทย ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์อยู่ที่ 26,816.06 จุด บวก 216.10 จุด หรือ 0.81%
ดาวโจนส์พุ่งขึ้น 7.2% ในเดือนมิ.ย. ซึ่งถือเป็นเดือนมิ.ย.ที่ปรับตัวขึ้นมากที่สุดนับตั้งแต่ปี 1938 ขณะที่ดัชนี S&P 500 ทะยานขึ้น 7.9% ในเดือนมิ.ย. และเป็นเดือนมิ.ย.ที่ปรับตัวขึ้นมากที่สุดนับตั้งแต่ปี 1955
ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ และประธานาธิบดีสี จิ้นผิงได้ตกลงกันเมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมาที่จะเริ่มการเจรจาการค้าอีกครั้ง บนพื้นฐานของความเท่าเทียม และความเคารพซึ่งกันและกัน โดยสหรัฐและจีนจะระงับการเพิ่มภาษีต่อสินค้านำเข้าครั้งใหม่
นอกจากนี้ สหรัฐจะอนุญาตให้บริษัทหัวเว่ย เทคโนโลยี่ สามารถซื้อสินค้าจากซัพพลายเออร์สหรัฐ และบริษัทสหรัฐสามารถขายอุปกรณ์ให้กับหัวเว่ย โดยจะต้องเป็นอุปกรณ์ที่ไม่มีปัญหาเกี่ยวกับความมั่นคงแห่งชาติ
หุ้นกลุ่มชิปในตลาดหุ้นวอลล์สตรีทต่างดีดตัวขึ้นในวันนี้ ขานรับการที่สหรัฐยกเลิกคำสั่งแบนหัวเว่ย
อย่างไรก็ดี นายแลร์รี่ คุดโลว์ ที่ปรึกษาฝ่ายเศรษฐกิจประจำทำเนียบขาว กล่าวว่า ปธน.ทรัมป์ไม่ได้"ให้อภัยโทษแก่หัวเว่ยแบบเบ็ดเสร็จ" และยังไม่มีตารางเวลาที่จะระบุว่า ทั้งสองฝ่ายจะบรรลุข้อตกลงเมื่อใด
ความไม่แน่นอนต่อการเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐและจีนยังคงเป็นปัจจัยกดดันผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียน โดยมีการคาดการณ์ว่า ผลประกอบการในไตรมาส 2 จะลดลงเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว
นอกจากนี้ นักวิเคราะห์ยังได้ปรับลดตัวเลขคาดการณ์ผลประกอบการในไตรมาส 3 เพื่อแสดงถึงภาวะหดตัวจากปีที่แล้ว ขณะที่ตัวเลขกำไรของบริษัทที่มีการลงทุนในจีนได้ลดต่ำลง