ดัชนีดาวโจนส์ร่วงลงกว่า 100 จุดหลังเปิดทำการได้เพียงไม่นานในวันนี้ ภายหลังกระทรวงแรงงานสหรัฐเผยตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรพุ่งเกินในคาดเดือนมิ.ย. ซึ่งอาจทำให้ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ยังไม่ปรับลดอัตราดอกเบี้ยในการประชุมเดือนนี้อย่างที่มีการคาดการณ์กันไว้
ณ เวลา 20.40 น. ตามเวลาไทย ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์อยู่ที่ 26,818.33 จุด ลดลง 147.67 จุด หรือ -0.55%
ดัชนีหุ้นนิวยอร์กเปิดตลาดวันนี้ปรับตัวลดลง หลังจากที่ทั้งดาวโจนส์, S&P500 และ Nasdaq ต่างก็ทำสถิติปิดที่ระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์เมื่อคืนนี้ ขานรับกระแสคาดการณ์ที่ว่า ธนาคารกลางสหรัฐจะปรับลดอัตราดอกเบี้ย หลังจากสหรัฐเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจที่อ่อนแอ โดยออโตเมติก ดาต้า โพรเซสซิ่ง อิงค์ (ADP) และมูดี้ส์ อนาลิติกส์ เปิดเผยว่า การจ้างงานของภาคเอกชนสหรัฐเพิ่มขึ้นเพียง 102,000 ตำแหน่งในเดือนมิ.ย. ซึ่งเพิ่มขึ้นน้อยกว่าการคาดการณ์ของนักเศรษฐศาสตร์ที่คาดว่าจะเพิ่มขึ้น 135,000 ตำแหน่ง
อย่างไรก็ดี กระทรวงแรงงานสหรัฐรายงานในวันนี้ว่า ตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรเพิ่มขึ้น 224,000 ตำแหน่งในเดือนมิ.ย. ซึ่งดีดตัวขึ้นมากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ว่า ตัวเลขจ้างงานเดือนมิ.ย.จะเพิ่มขึ้น 165,000 ตำแหน่ง หลังขยายตัวเพียง 72,000 ตำแหน่งในเดือนพ.ค.
ตัวเลขจ้างงานเดือนมิ.ย. นับว่าเพิ่มขึ้นมากที่สุดในรอบ 5 เดือน ขณะที่ตัวเลขเดือนพ.ค. ถูกปรับทบทวนลงจากรายงานเบื้องต้นที่ 75,000 ตำแหน่ง
ส่วนอัตราการว่างงานเดือนมิ.ย. ขยับขึ้นสู่ระดับ 3.7% จากระดับ 3.6% ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนธ.ค.2512 เนื่องจากมีประชาชนเข้าสู่ตลาดแรงงานเพื่อหางานทำมากขึ้น
ทั้งนี้ นักลงทุนจับตาตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรประจำเดือนมิ.ย.ของสหรัฐ เพื่อหาสัญญาณบ่งชี้แนวโน้มนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ซึ่งการที่ตัวเลขจ้างงานออกมาดีเกินคาดนี้สะท้อนว่าเศรษฐกิจสหรัฐอาจจะยังดีอยู่ และเฟดอาจจะยังไม่ต้องรีบปรับลดอัตราดอกเบี้ยในการประชุมเดือนนี้