ตลาดหุ้นเอเชียปิดภาคเช้าวันนี้ปรับตัวลง เนื่องจากความกังวลเกี่ยวกับแนวโน้มการปรับลดอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐ ภายหลังจากที่สหรัฐได้เปิดเผยตัวเลขจ้างงานนอกภาคการเกษตรที่ปรับตัวสูงขึ้น
ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่นปิดภาคเช้าที่ 21,548.36 จุด ลดลง 198.02 จุด, -0.91% ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกงปิดภาคเช้าที่ 28,301.77 จุด ลดลง 473.06 จุด, -1.64% ดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซียปิดภาคเช้าที่ 1,677.54 จุด ลดลง 4.99 จุด, -0.30%
ตลาดการเงินจับตานายเจอโรม พาวเวล ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ซึ่งมีกำหนดแถลงนโยบายครึ่งปีต่อสภาคองเกรสในสัปดาห์นี้ โดยนักลงทุนหวังจับสัญญาณทิศทางอัตราดอกเบี้ยของเฟด หลังจากกระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรที่สูงเกินคาดในเดือนมิ.ย.
นายพาวเวลมีกำหนดแถลงนโยบายการเงินรอบครึ่งปีต่อคณะกรรมาธิการบริการด้านการเงินแห่งสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐ ในวันพุธที่ 10 ก.ค.นี้ และจากนั้นจะแถลงนโยบายการเงินรอบครึ่งปีต่อคณะกรรมาธิการด้านการธนาคารแห่งวุฒิสภาสหรัฐ ในวันพฤหัสบดีที่ 11 ก.ค.
ทั้งนี้ สถานการณ์ที่ตึงเครียดระหว่างญี่ปุ่นและเกาหลีใต้ ส่งผลให้หุ้นซัมซุง อิเล็กทรอนิกส์ และเอสเค ไฮนิกซ์ ปรับตัวลง โดยล่าสุด เกาหลีใต้ได้ออกมาเรียกร้องให้ญี่ปุ่นยกเลิกมาตรการยกระดับการควบคุมสินค้าส่งออกสินค้าที่ใช้ผลิตชิปและจอแสดงผล ซึ่งมีผลบังคับใช้เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา
นายฮง นัม-กี กล่าวในการประชุมคณะรัฐมนตรีว่า "ควรมีการยกเลิกนโยบายควบคุมการส่งออกของญี่ปุ่น" พร้อมย้ำว่า รัฐบาลจะช่วยลดภาระของบริษัทเกาหลีใต้ที่ได้รับผลกระทบจากนโยบายดังกล่าว
ทั้งนี้ ญี่ปุ่นได้จำกัดการส่งออก ซึ่งสร้างความเสียหายต่อผู้ผลิตชิปและจอแสดงผลของเกาหลีใต้ โดยอ้างเหตุผลถึงการกระทำดังกล่าวว่าเป็นเพราะความสัมพันธ์ระหว่างสองประเทศถูกทำลาย หลังจากที่เกาหลีใต้ไม่สามารถจัดการข้อพิพาทเกี่ยวกับค่าชดเชยสมัยสงครามระหว่างสองประเทศได้
ข้อมูลเศรษฐกิจที่ได้มีการเปิดเผยแล้วในวันนี้ ได้แก่ รัฐบาลญี่ปุ่นเปิดเผยว่า ยอดสั่งซื้อเครื่องจักรพื้นฐานซึ่งไม่รวมเครื่องจักรสำหรับอุตสาหกรรมต่อเรือและสาธารณูปโภค ปรับตัวลง 7.8% ในเดือนพ.ค. สู่ระดับ 8.429 แสนล้านเยน หรือประมาณ 7.77 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ เมื่อเทียบกับเดือนก่อนหน้า
ยอดสั่งซื้อเครื่องจักร ซึ่งเป็นดัชนีวัดการใช้จ่ายด้านทุนของภาคเอกชนญี่ปุ่นนั้น ปรับตัวลงเป็นครั้งแรกในรอบ 4 เดือน
ขณะที่ธนาคารกลางจีนเปิดเผยในวันนี้ว่า ทุนสำรองเงินตราต่างประเทศของจีนในเดือนมิ.ย.ปรับตัวขึ้น 1.82 หมื่นล้านดอลลาร์ หรือ 0.6% สู่ระดับ 3.1192 ล้านล้านดอลลาร์
นายหวัง ชุนหยิง โฆษกสำนักงานปริวรรตเงินตราแห่งรัฐของจีน (SAFE) ระบุว่า ปัจจัยที่ทำให้ทุนสำรองเงินตราต่างประเทศปรับตัวขึ้นในเดือนมิ.ย.นั้น มาจากหลากหลายปัจจัย เช่น ความผันผวนของอัตราแลกเปลี่ยน และการเปลี่ยนแปลงของราคาสินทรัพย์