ตลาดหุ้นยุโรปปิดลดลงเมื่อคืนนี้ (9 ก.ค.) นำโดยหุ้นกลุ่มเคมีภัณฑ์ กลุ่มเหมืองแร่ และ กลุ่มผู้ผลิตรถยนต์ ขณะที่การประกาศเตือนเกี่ยวกับผลกำไรของบริษัท BASF ซึ่งเป็นบริษัทผลิตเคมีภัณฑ์ยักษ์ใหญ่ของเยอรมนี ส่งผลกดดันตลาด
ดัชนี Stoxx Europe 600 ลดลง 0.51% ปิดที่ 387.92 จุด
ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 5,572.10 จุด ลดลง 17.09 จุด หรือ -0.31%ขณะที่ ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมันปิดที่ 12,436.55 จุด ลดลง 106.96 จุด หรือ -0.85% และ ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,536.47 จุด ลดลง 12.80 จุด หรือ -0.17%
ตลาดปรับตัวลง หลังบริษัท BASF เตือนว่า ผลกำไรจะลดลงต่ำกว่าคาดในไตรมาส 2 และทั้งปี ขณะที่การขยายตัวทางเศรษฐกิจที่ชะลอตัวลงทั่วโลก ส่งผลกระทบต่อภาคการเกษตรและการผลิตรถยนต์
การประกาศเตือนผลกำไรของ BASF ทำให้บรรดาโบรกเกอร์ปรับลดอันดับความน่าลงทุนของหุ้นหลายตัว อาทิ หุ้นไบเออร์ หุ้นคอสเวสโตร และ หุ้นอีโวนิค
หุ้นกลุ่มทรัพยากรฉุดตลาดลงด้วย โดยหุ้นกลุ่มเหมืองแร่ร่วงลงตามราคาทองแดงจากความวิตกเกี่ยวกับอุปสงค์ที่ลดลงจากจีนซึ่งเป็นผู้ใช้ทองแดงรายใหญ่
หุ้นกลุ่มธนาคารก็ยังคงถูกกดดันจากการร่วงลงของหุ้นดอยซ์แบงก์ เนื่องจากนักลงทุนไม่มั่นใจในความสามารถทำกำไรของดอยซ์แบงก์ หลังธนาคารเปิดเผยแผนปรับโครงสร้างครั้งใหญ่
หุ้นกลุ่มสายการบิน อาทิ ไรอัน แอร์ และ แอร์ ฟรานซ์ ร่วงลง หลังรัฐบาลฝรั่งเศสวางแผนที่จะเก็บภาษีสิ่งแวดล้อม (eco-tax) สำหรับสายการบินที่บินออกจากประเทศ
บรรดานักลงทุนจะจับตานายเจอโรม พาวเวล ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) กล่าวแถลงการณ์รอบครึ่งปีว่าด้วยนโยบายการเงินและภาวะเศรษฐกิจสหรัฐต่อสภาคองเกรสในสัปดาห์นี้ และการเปิดเผยรายงานการประชุมเฟดประจำวันที่ 18-19 มิ.ย.ในวันพุธนี้ เพื่อหาสัญญาณบ่งชี้ทิศทางอัตราดอกเบี้ยสหรัฐก่อนการประชุมเฟดในช่วงสิ้นเดือนนี้