ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นกว่า 200 จุดเมื่อคืนนี้ (11 ก.ค.) โดยได้แรงหนุนจากการที่นายเจอโรม พาวเวล ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ยังคงส่งสัญญาณปรับลดอัตราดอกเบี้ยในเดือนก.ค. ในระหว่างการแถลงต่อสภาคองเกรสวันที่ 2 เมื่อวานนี้ ขณะที่หุ้นกลุ่มธุรกิจประกันสุขภาพพุ่งขึ้น หลังจากคณะทำงานของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ได้ตัดสินใจยกเลิกแผนการควบคุมราคายาตามใบสั่งแพทย์ ส่วนหุ้นกลุ่มธนาคารปรับตัวขึ้นหลังจากอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐดีดตัวขึ้นเมื่อคืนนี้
ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 27,088.08 จุด พุ่งขึ้น 227.88 จุด หรือ +0.85% ขณะที่ดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,999.91 จุด เพิ่มขึ้น 6.84 จุด หรือ +0.23% ส่วนดัชนี Nasdaq ปิดที่ 8,196.04 จุด ลดลง 6.49 จุด หรือ -0.08%
ดัชนีดาวโจนส์ปิดตลาดพุ่งขึ้นหลังจากนายพาวเวลได้กล่าวแถลงการณ์ต่อคณะกรรมาธิการการธนาคารประจำวุฒิสภาเมื่อวานนี้ โดยเขายังคงส่งสัญญาณการปรับลดอัตราดอกเบี้ยในเดือนก.ค. เช่นเดียวกับการแถลงต่อคณะกรรมาธิการบริการการเงินประจำสภาผู้แทนราษฎรเมื่อวันพุธที่ผ่านมา
ทั้งนี้ นายพาวเวลกล่าวว่า เฟดจะดำเนินการอย่างเหมาะสมเพื่อรักษาการขยายตัวของเศรษฐกิจสหรัฐ ขณะที่ปัจจัยลบหลายประการ เช่น ความตึงเครียดทางการค้า และความวิตกต่อการขยายตัวของเศรษฐกิจโลก กำลังถ่วงแนวโน้มเศรษฐกิจ
หุ้นกลุ่มธุรกิจประกันสุขภาพพุ่งขึ้น นำโดยหุ้นซิกน่า คอร์ป ทะยานขึ้น 9.2% หุ้นยูไนเต็ดเฮลธ์ กรุ๊ป พุ่งขึ้น 5.5% หุ้นซีวีเอสเฮลธ์ พุ่งขึ้น 4.6% และหุ้นเอชซีเอ เฮลธ์แคร์ ปรับตัวขึ้น 1.44% หลังจากคณะทำงานของปธน.ทรัมป์ได้ตัดสินใจยกเลิกแผนการควบคุมราคายาตามใบสั่งแพทย์ หลังจากที่ก่อนหน้านี้ คณะทำงานได้กำหนดว่าบริษัทประกันสุขภาพจะต้องนำเงินหลายพันล้านดอลลาร์ที่ได้รับจากบริษัทผลิตยา คืนให้กับผู้ป่วยในโครงการประกันสุขภาพ "เมดิแคร์"
อย่างไรก็ดี หุ้นบริษัทผลิตยาได้รับแรงกดดันจากข่าวดังกล่าว โดยหุ้นไฟเซอร์ ร่วงลง 2.4% หุ้นเมอร์ค แอนด์ โค ดิ่งลง 4.5% ขณะที่ดัชนีหุ้นกลุ่มไบโอเทคที่คำนวณใน Nasdaq ร่วงลง 1.5%
หุ้นเดลต้า แอร์ไลน์ ดีดตัวขึ้น 1.16% หลังจากสายการบินเดลต้า แอร์ไลน์เปิดเผยรายได้ในไตรมาส 2 เพิ่มขึ้น 8.7% ซึ่งสูงกว่าตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ในวอลล์สตรีท โดยได้ปัจจัยหนุนจากความต้องการเดินทางท่องเที่ยวที่ปรับตัวสูงขึ้น
หุ้นกลุ่มธนาคารปรับตัวขึ้นหลังจากอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐดีดตัวขึ้นเมื่อคืนนี้ หุ้นโกลด์แมน แซคส์ พุ่งขึ้น 2.6% หุ้นมอร์แกน สแตนลีย์ เพิ่มขึ้น 2.01% หุ้นเจพีมอร์แกน เชส เพิ่มขึ้น 0.9% หุ้นซิตี้กรุ๊ป เพิ่มขึ้น 0.6% และหุ้นแบงก์ ออฟ อเมริกา พุ่งขึ้น 1.2%
สำหรับข้อมูลเศรษฐกิจที่มีการเปิดเผยเมื่อคืนนี้ กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่า ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ทั่วไปเพิ่มขึ้น 0.1% ในเดือนมิ.ย. เมื่อเทียบรายเดือน หลังจากเพิ่มขึ้น 0.1% เช่นกันในเดือนพ.ค. และหากไม่นับรวมหมวดอาหารและพลังงาน ดัชนี CPI พื้นฐานเพิ่มขึ้น 0.3% ในเดือนมิ.ย. ซึ่งเป็นการเพิ่มขึ้นมากที่สุดนับตั้งแต่เดือนม.ค.ปีที่แล้ว หลังจากเพิ่มขึ้น 0.1% ติดต่อกัน 4 เดือน กระทรวงแรงงานสหรัฐยังระบุว่า จำนวนชาวอเมริกันที่ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรกลดลง 13,000 ราย สู่ระดับ 209,000 รายในสัปดาห์ที่แล้ว ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนเม.ย. ขณะที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าจะเพิ่มขึ้นสู่ระดับ 223,000 ราย
นอกจากนี้ กระทรวงการคลังสหรัฐเปิดเผยว่า รัฐบาลสหรัฐประสบภาวะขาดดุลงบประมาณ 8 พันล้านดอลลาร์ในเดือนมิ.ย. โดยสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 6.35 พันล้านดอลลาร์