ดัชนีดาวโจนส์ยังคงดีดตัวขึ้นทำสถิติสูงสุดเป็นประวัติการณ์ในวันนี้ ขานรับการเปิดเผยผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียน และยอดค้าปลีกที่เพิ่มขึ้นมากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้
ณ เวลา 21.22 น.ตามเวลาไทย ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์อยู่ที่ 27,373.79 จุด บวก 14.63 จุด หรือ 0.05%
ทั้งนี้ เจพีมอร์แกน เชส, โกลด์แมน แซคส์, เวลส์ ฟาร์โก และจอห์นสัน แอนด์ จอห์นสัน ต่างเปิดเผยผลประกอบการในไตรมาส 2 ซึ่งสูงกว่าตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์
ขณะนี้ มีบริษัทราว 5% ของดัชนี S&P 500 ที่ได้ประกาศผลประกอบการออกมาแล้ว ซึ่งในจำนวนดังกล่าว มากกว่า 85% ได้รายงานตัวเลขกำไรสูงกว่าคาด
อย่างไรก็ดี นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่า บริษัทในดัชนี S&P 500 จะมีผลประกอบการลดลง 3% ในไตรมาส 2 ซึ่งจะเป็นการปรับตัวลงของผลประกอบการรายไตรมาสครั้งแรกในรอบ 3 ปี
นักลงทุนจับตาการเปิดเผยรายงานสรุปภาวะเศรษฐกิจ หรือ Beige Book จากธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ทั้ง 12 ภาคในวันพรุ่งนี้
ส่วนการเปิดเผยตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐในวันนี้ กระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยว่า ยอดค้าปลีกเพิ่มขึ้น 0.4% ในเดือนมิ.ย. สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าจะเพิ่มขึ้นเพียง 0.1% จากระดับ 0.4% ในเดือนพ.ค.
การดีดตัวขึ้นของยอดค้าปลีกในเดือนมิ.ย.ได้รับแรงหนุนจากการเพิ่มขึ้นของยอดขายรถยนต์
ส่วนกระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่า ดัชนีราคานำเข้าร่วงลงมากกว่าคาดในเดือนมิ.ย. โดยลดลง 0.9% เมื่อเทียบรายเดือน ซึ่งเป็นการปรับตัวลงมากที่สุดนับตั้งแต่เดือนธ.ค.ปีที่แล้ว หลังจากทรงตัวในเดือนพ.ค.
นักวิเคราะห์คาดการณ์ก่อนหน้านี้ว่าดัชนีราคานำเข้าจะลดลง 0.7% ในเดือนมิ.ย.
นอกจากนี้ กระทรวงแรงงานสหรัฐยังเปิดเผยว่า ดัชนีราคาส่งออกลดลง 0.7% ในเดือนมิ.ย. เมื่อเทียบรายเดือน หลังจากลดลง 0.2% ในเดือนพ.ค.
เมื่อเทียบรายปี ดัชนีราคาส่งออกลดลง 1.6% หลังจากลดลง 0.8% ในเดือนพ.ค.
สมาคมผู้สร้างบ้านแห่งชาติ (NAHB) ของสหรัฐเปิดเผยว่า ดัชนีความเชื่อมั่นผู้สร้างบ้านปรับตัวขึ้นเพียง 1 จุด สู่ระดับ 65 ในเดือนก.ค.
เมื่อเทียบรายปี ดัชนีความเชื่อมั่นปรับตัวลง 3 จุดในเดือนก.ค.
ดัชนีความเชื่อมั่นได้รับผลกระทบจากค่าก่อสร้างที่ดีดตัวขึ้น และการขาดแคลนแรงงานทักษะ แม้ว่าอัตราดอกเบี้ยจำนองปรับตัวลง