ตลาดหุ้นเอเชียปิดภาคเช้าวันนี้ปรับตัวลง เนื่องจากความกังวลเกี่ยวกับการเจรจาการค้าระหว่างจีนและสหรัฐ ภายหลังจากที่มีรายงานข่าวว่า การเจรจาหยุดชะงักเพราะประเด็นเกี่ยวกับบริษัท หัวเว่ย เทคโนโลยี่
ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกงปิดภาคเช้าที่ 28,453.57 จุด ลดลง 139.60 จุด, -0.49% ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่นปิดภาคเช้าที่ 21,126.12 จุด ลดลง 343.06 จุด, -1.60% ดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซียปิดภาคเช้าที่ 1,654.40 จุด ลดลง 3.13 จุด, -0.19%
ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) เปิดเผยรายงานสรุปภาวะเศรษฐกิจทั้ง 12 เขต หรือ "Beige Book" เมื่อวานนี้ โดยระบุว่า เศรษฐกิจขยายตัวเล็กน้อยในช่วงกลางเดือนพ.ค.จนถึงต้นเดือนก.ค. โดยผู้บริโภคยังคงจับจ่ายใช้สอยอย่างต่อเนื่อง ขณะที่แนวโน้มเศรษฐกิจยังคงอยู่ในทิศทางที่เป็นบวก แม้ภาคธุรกิจมีความกังวลเกี่ยวกับผลกระทบจากข้อพิพาทการค้า
รายงานระบุว่า การจ้างงานยังคงขยายตัวอย่างต่อเนื่อง และตลาดแรงงานยังคงอยู่ในภาวะตึงตัว ซึ่งหมายความว่านายจ้างยังมีแนวโน้มที่จะจ้างงานเพิ่มขึ้น
ธนาคารกลางเกาหลีใต้มีมติปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายลง 0.25% สู่ระดับ 1.50% จากระดับ 1.75% โดยมีเป้าหมายที่จะกระตุ้นเศรษฐกิจให้ฟื้นตัวขึ้น หลังจากเศรษฐกิจได้รับผลกระทบจากข้อพิพาทการค้าที่ยืดเยื้อ
ทั้งนี้ ธนาคารกลางเกาหลีใต้ได้ปรับลดอัตราดอกเบี้ยเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่เดือนพ.ย.ปีที่แล้ว โดยในครั้งนั้นธนาคารกลางได้ปรับขึ้นดอกเบี้ย 0.25% สู่ระดับ 1.75%
ข้อมูลเศรษฐกิจที่ได้มีการเปิดเผยในวันนี้ ได้แก่ กระทรวงการคลังญี่ปุ่นเปิดเผยรายงานเบื้องต้นว่า ญี่ปุ่นมียอดเกินดุลการค้าที่ระดับ 5.895 แสนล้านเยน หรือประมาณ 5.5 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ในเดือนมิ.ย.
รายงานระบุว่า ยอดส่งออกเดือนมิ.ย.ลดลง 6.7% เมื่อเทียบเป็นรายปี ขณะที่ยอดนำเข้าลดลง 5.2%
ส่วนในช่วง 6 เดือนแรกของปีนี้ ญี่ปุ่นขาดดุลการค้ามูลค่า 8.888 แสนล้านเยน
สำนักงานสถิติแห่งชาติออสเตรเลีย (ABS) รายงานว่า อัตราว่างงานยังคงอยู่ที่ระดับ 5.2% ในเดือนมิ.ย. ซึ่งสอดคล้องกับการคาดการณ์ของตลาด ขณะที่ตัวเลขจ้างงานในเดือนมิ.ย.ปรับตัวขึ้นเพียง 500 ตำแหน่ง สู่ระดับ 12.87 ล้านตำแหน่ง