ตลาดหุ้นลอนดอนปิดลดลงเมื่อคืนนี้ (18 ก.ค.) เนื่องจากเงินปอนด์ที่แข็งค่าขึ้น ส่งผลกดดันหุ้นกลุ่มส่งออก และนักลงทุนยังวิตกเกี่ยวกับการเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐและจีนที่หยุดชะงักเกี่ยวกับประเด็นบริษัทหัวเว่ย เทคโนโลยี่
ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,493.09 จุด ลดลง 42.37 จุด หรือ -0.56%
หุ้นกลุ่มส่งออกปรับตัวลง โดยถูกกดดันจากเงินปอนด์ที่แข็งค่าขึ้นหลังสำนักงานสถิติแห่งชาติของอังกฤษ (ONS) เปิดเผย ยอดค้าปลีกพุ่งขึ้น 1% ในเดือนมิ.ย. เมื่อเทียบรายเดือน สวนทางนักวิเคราะห์ที่คาดว่ายอดค้าปลีกจะลดลง 0.3% และเมื่อเทียบรายปี ยอดค้าปลีกเพิ่มขึ้น 3.8% ในเดือนมิ.ย.
หุ้นกลุ่มน้ำมันยังคงปรับตัวลง ตามราคาน้ำมัน โดยหุ้นบีพี ลบ 1.12% และหุ้นเชลล์ ลดลง 0.76%
บรรดานักลงทุนยังคงจับตาการเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐและจีน ขณะที่มีรายงานข่าวว่า การเจรจาหยุดชะงักในประเด็นที่เกี่ยวกับบริษัทหัวเว่ย โดยจีนเรียกร้องให้สหรัฐผ่อนคลายข้อจำกัดในการทำธุรกิจของหัวเว่ย แต่สหรัฐยังไม่ได้ตัดสินใจในเรื่องดังกล่าว
หุ้นเอซอส ซึ่งเป็นบริษัทแฟชั่นออนไลน์ ดิ่งลง 23.19% หลังบริษัทเตือนเกี่ยวกับแนวโน้มผลกำไรที่ลดลง
หุ้นเฟรสนิลโลในกลุ่มเหมืองแร่ ร่วง 9.12% และ หุ้นจอห์นสัน แมทเธย์ ในกลุ่มเคมีภัณฑ์ ร่วงลง 4.93%