ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดลบเมื่อวันศุกร์ (19 ก.ค.) โดยตลาดลดช่วงบวกลงหลังจากมีข่าวว่า ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) อาจจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงเพียง 0.25% มากกว่าที่จะปรับลดลง 0.5% ในช่วงสิ้นเดือนนี้ นอกจากนี้ ตลาดยังถูกกดดันจากรายงานข่าวที่ว่า อิหร่านได้เข้ายึดเรือบรรทุกน้ำมันลำหนึ่งของอังกฤษ ขณะแล่นเข้าสู่น่านน้ำของอิหร่าน
ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 27,154.20 จุด ลดลง 68.77 จุด หรือ -0.25% ขณะที่ดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,976.61 จุด ลดลง 18.50 จุด หรือ -0.62% และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 8,146.49 จุด ลดลง 60.75 จุด หรือ -0.74%
ตลาดปรับตัวลง หลังหนังสือพิมพ์วอลล์สตรีท เจอร์นัลรายงานว่า เจ้าหน้าเฟดหลายรายบ่งชี้ว่า พวกเขาพร้อมที่จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยลง 0.25% ในการประชุมนโยบายในวันที่ 30-31 ก.ค.นี้ แต่พวกเขาไม่ได้เตรียมที่จะปรับลดดอกเบี้ยลงถึง 0.5%
เครื่องมือ FedWatch Tool ของ CME Group ล่าสุดบ่งชี้ว่า มีโอกาสเพียง 22.5% ที่เฟดจะปรับลดดอกเบี้ยลง 0.50% ในการประชุมสิ้นเดือนนี้
ตลาดยังถูกกดดันจากรายงานข่าวที่ว่า อิหร่านได้เข้ายึดเรือบรรทุกน้ำมันลำหนึ่งของอังกฤษ ขณะแล่นเข้าสู่น่านน้ำของอิหร่าน โดยรัฐบาลอังกฤษแถลงว่า ทางรัฐบาลกำลังตรวจสอบรายงานดังกล่าว
ข่าวดังกล่าวทำให้นักลงทุนมีความวิตกมากขึ้นเกี่ยวกับความตึงเครียดในตะวันออกลาง หลังจากประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์แห่งสหรัฐยืนยันเมื่อวันพฤหัสบดีว่า กองทัพเรือของสหรัฐยิงโดรนลำหนึ่งของอิหร่านตกในช่องแคบฮอร์มุซ
ตลาดได้ปรับตัวรับการเปิดเผยผลประกอบการที่ดีเกินคาดของบริษัทไมโครซอฟท์ คอร์ป แต่หุ้นไมโครซอฟท์ บวกขึ้นเพียง 0.15%
ส่วนหุ้นอเมริกัน เอ็กซ์เพรส ร่วง 2.79% แม้เปิดเผยผลประกอบการที่ดีเกินคาดก็ตาม
บรรดานักลงทุนจะยังคงมุ่งความสนใจไปที่การเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐและจีนซึ่งยังไม่มีความคืบหน้า รวมถึงการที่รัฐบาลสหรัฐและสภาคองเกรสกำลังร่วมมือกันแก้ไขปัญหาเกี่ยวกับการเพิ่มเพดานหนี้ โดยนายสตีเวน มนูชิน รมว.คลังสหรัฐแสดงความเชื่อมั่นว่า ทั้งสองฝ่ายจะสามารถบรรลุข้อตกลงเพื่อหลีกเลี่ยงการผิดนัดชำระหนี้
นายมนูชินเตือนว่า กระทรวงการคลังมีงบประมาณสำหรับการบริหารประเทศอีกเพียง 2 เดือน จนถึงเดือนก.ย. ซึ่งอาจจะทำให้รัฐบาลไม่สามารถชำระหนี้จำนวน 22 ล้านล้านดอลลาร์ และจะเป็นเหตุการณ์ครั้งใหญ่ที่ส่งผลกระทบต่อตลาดการเงินทั่วโลก
สำหรับข้อมูลเศรษฐกิจที่มีการเปิดเผยเมื่อวันศุกร์ ผลสำรวจของมหาวิทยาลัยมิชิแกนระบุว่า ดัชนีความเชื่อมั่นของผู้บริโภคสหรัฐปรับตัวขึ้นแตะระดับ 98.4 ในเดือนก.ค. แต่ต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ที่ระดับ 98.5 จากระดับ 98.2 ในเดือนมิ.ย.