ดัชนีดาวโจนส์ดีดตัวขึ้นเกือบ 100 จุดในวันนี้ ขานรับผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียนที่ดีกว่าคาด
ณ เวลา 21.41 น.ตามเวลาไทย ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์อยู่ที่ 27,270.33 จุด บวก 98.43 จุด หรือ 0.36%
ราคาหุ้นบริษัทโคคา โคล่าทะยานขึ้นกว่า 4% ขานรับการเปิดเผยตัวเลขกำไรและรายได้ในไตรมาส 2 ที่สูงกว่าตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ ขณะที่ราคาหุ้นยูไนเต็ด เทคโนโลยีพุ่งขึ้น 1.7% หลังเปิดเผยผลประกอบการที่สดใส ส่วนราคาหุ้นบริษัทไบโอเจน อิงค์ ซึ่งเป็นบริษัทเวชภัณฑ์ของสหรัฐ ดีดตัวขึ้น 5% ขานรับผลประกอบการที่ดีกว่าคาดเช่นกัน
ทั้งนี้ บริษัทจำนวนมากกว่า 25% ในดัชนี S&P 500 จะรายงานผลประกอบการในสัปดาห์นี้ ซึ่งได้แก่ แมคโดนัลด์ และโบอิ้ง รวมถึงบริษัทในกลุ่ม FANG ซึ่งได้แก่ เฟซบุ๊ก อเมซอน เน็ตฟลิกซ์ และอัลฟาเบท ซึ่งเป็นบริษัทแม่ของกูเกิล
ขณะนี้ บริษัทจำนวนมากกว่า 18% ของดัชนี S&P 500 ได้ประกาศผลประกอบการออกมาแล้ว ซึ่งในจำนวนดังกล่าว ราว 79% ได้รายงานตัวเลขกำไรสูงกว่าคาด
นอกจากนี้ ตลาดยังได้แรงหนุนจากการที่ทำเนียบขาวและสภาคองเกรสสามารถบรรลุข้อตกลงเกี่ยวกับงบประมาณรายจ่ายฉบับใหม่ ซึ่งจะทำให้มีการปรับเพิ่มเพดานหนี้ของสหรัฐเป็นเวลา 2 ปี และหลีกเลี่ยงการปิดหน่วยงานรัฐบาล (ชัตดาวน์) ครั้งใหม่
ส่วนการเปิดเผยตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐในวันนี้ สมาคมนายหน้าอสังหาริมทรัพย์แห่งชาติของสหรัฐ (NAR) เปิดเผยว่า ยอดขายบ้านมือสองดิ่งลง 1.7% สู่ระดับ 5.27 ล้านยูนิตในเดือนมิ.ย. ขณะที่นักวิเคราะห์คาดว่ายอดขายบ้านจะลดลงเพียง 0.2% สู่ระดับ 5.33 ล้านยูนิต จากระดับ 5.36 ล้านยูนิตในเดือนพ.ค.
ยอดขายบ้านได้รับผลกระทบจากการที่ราคาบ้านพุ่งแตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ แม้อัตราดอกเบี้ยเงินกู้จำนองปรับตัวลง
เมื่อเทียบรายปี ยอดขายบ้านมือสองลดลง 2.2% ในเดือนมิ.ย. ซึ่งเป็นการลดลงติดต่อกันเป็นเดือนที่ 16