ตลาดหุ้นยุโรปปิดปรับตัวขึ้นเล็กน้อยเมื่อคืนนี้ (24 ก.ค.) โดยได้แรงหนุนจากหุ้นกลุ่มผลิตชิปและรถยนต์ซึ่งปรับตัวขึ้น และได้ช่วยชดเชยการร่วงลงของหุ้นกลุ่มธนาคารและกลุ่มสินค้าโภคภัณฑ์ ขณะที่นักลงทุนในตลาดมุ่งความสนใจไปที่การประชุมของธนาคารกลางยุโรป (ECB) ในวันนี้ และการประชุมของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ในสัปดาห์หน้า
ดัชนี Stoxx Europe 600 บวก 0.05% ปิดที่ 391.73 จุด
ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมันปิดที่ 12,522.89 จุด เพิ่มขึ้น 32.15 จุด หรือ +0.26% ขณะที่ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 5,605.87 จุด ลดลง 12.28 จุด หรือ -0.22% และ ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,501.46 จุด ลดลง 55.40 จุด หรือ -0.73%
หุ้นกลุ่มรถยนต์และกลุ่มเทคโนโลยี นำตลาดปรับตัวขึ้น เนื่องจากนักลงทุนขานรับข่าวการเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐ-จีนในสัปดาห์หน้า และการเปิดเผยผลประกอบการที่สดใสจากบริษัทเท็กซัส อินสตรูเมนต์ ซึ่งเป็นบริษัทผลิตชิปชั้นนำ
หุ้นกลุ่มบริษัทผลิตชิปของยุโรปปรับตัวขึ้น โดยหุ้นเอเอสเอ็ม อินเตอร์เนชันแนล พุ่ง 6.53% หุ้นอินฟิเนียน เทคโนโลยีส์ เพิ่มขึ้น 2.52% และหุ้นซิลทรอนิก ปรับตัวขึ้น 5.12%
หุ้นเดมเลอร์ เอจี บวก 2.44% หลังเปิดเผยว่าบริษัทจะปรับลดต้นทุนลงอย่างมาก หลังประสบภาวะขาดทุนรายไตรมาส
แต่หุ้นกลุ่มธนาคารร่วงลง เนื่องจากอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลยูโรโซนลดลง หลังการเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจที่อ่อนแอ โดยหุ้นดอยซ์แบงก์ ปรับตัวลง 1.85% และ หุ้นเอชเอสบีซี ลดลง 1.34%
หุ้นกลุ่มสินค้าโภคภัณฑ์ปรับตัวลงตามการร่วงลงของราคาสินแร่เหล็ก โดยหุ้นริโอ ทินโต ร่วง 4.60% และหุ้นแองโกล อมริกัน ร่วงลง 3.25%
บรรดานักลงทุนรอผลการประชุม ECB ในวันนี้ ขณะที่ปรับตัวรับโอกาสราว 53% ที่ ECB จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยลง 0.10% ในการประชุมวันนี้ และคาดว่ามีโอกาส 100% ที่ ECB จะปรับลดดอกเบี้ยในเดือนก.ย.