ตลาดหุ้นยุโรปปิดปรับตัวลงเมื่อคืนนี้ (25 ก.ค.) เนื่องจากนักลงทุนผิดหวังที่ไม่มีความชัดเจนเกี่ยวกับมาตรการของธนาคารกลางยุโรป (ECB) ที่จะกระตุ้นเศรษฐกิจยูโรโซนที่ชะลอตัวลง แม้ ECB ส่งสัญญาณที่จะผ่อนคลายนโยบายการเงินลงต่อไปก็ตาม
ดัชนี Stoxx Europe 600 ลดลง 0.56% ปิดที่ 389.52 จุด
ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 5,578.05 จุด ลดลง 27.81 จุด หรือ -0.50% ขณะที่ ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมันปิดที่ 12,362.10 จุด ลดลง 160.79 จุด หรือ -1.28% และ ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,489.05 จุด ลดลง 12.41 จุด หรือ -0.17%
ตลาดปรับตัวขึ้นในช่วงแรก หลัง ECB มีมติคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายในการประชุมเมื่อวานนี้ โดยคงอัตราดอกเบี้ยรีไฟแนนซ์ที่ระดับ 0% ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดเป็นประวัติการณ์ พร้อมกับคงอัตราดอกเบี้ยเงินฝากที่ธนาคารพาณิชย์ฝากไว้กับ ECB ที่ระดับ -0.40% และคงอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ที่ระดับ 0.25%
นอกจากนี้ ECB ระบุว่า จะยังคงตรึงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับปัจจุบันต่อไป หรือปรับลดลง อย่างน้อยจนถึงช่วงครึ่งปีแรกของปี 2563
อย่างไรก็ตาม ตลาดปรับตัวลงในเวลาต่อมา หลังนายมาริโอ ดรากี ประธาน ECB ระบุในการแถลงข่าวว่า มีความเสี่ยงในระดับต่ำที่ยูโรโซนจะเผชิญกับภาวะเศรษฐกิจถดถอย โดยผู้กำหนดนโยบายไม่ได้หารือเรื่องการปรับลดอัตราดอกเบี้ยในการประชุมเมื่อวานนี้ และจะรอข้อมูลเพิ่มเติมก่อนการตัดสินใจ
นอกจากนี้ ตลาดยังถูกกดดันหลัง Ifo ซึ่งเป็นสถาบันวิจัยเศรษฐกิจของเยอรมนี เปิดเผยว่า ดัชนีความเชื่อมั่นภาคธุรกิจของเยอรมนีลดลงสู่ระดับ 95.7 ในเดือนก.ค. ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนเม.ย.2556 โดยต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดไว้ที่ระดับ 97.1 และเป็นการปรับตัวลงติดต่อกันเป็นเดือนที่ 4 จากระดับ 97.5 ในเดือนมิ.ย.
หุ้นกลุ่มรถยนต์และชิ้นส่วนรถยนต์ปรับตัวลง หลังบริษัทฟอร์ด มอเตอร์ของสหรัฐ และบริษัทนิสสัน มอเตอร์ของญี่ปุ่น รายงานผลประกอบการที่อ่อนแอ โดยหุ้นเฮลลา ร่วง 5.64% และหุ้นเดมเลอร์ ลบ 1.95%
หุ้นกลุ่มธนาคารปรับตัวลงด้วย โดยหุ้นเอสเอชบีซี ลดลง 0.46% และหุ้นบาร์เคลย์ ลดลง 0.24%