ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 27,192.45 จุด เพิ่มขึ้น 51.47 จุด หรือ +0.19% ขณะที่ดัชนี S&P500 ปิดที่ 3,025.86 จุด เพิ่มขึ้น 22.19 จุด หรือ +0.74% และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 8,330.21 จุด เพิ่มขึ้น 91.67 จุด หรือ +1.11%
หุ้น 9 ใน 11 กลุ่มของดัชนี S&P 500 ปิดบวก โดยกลุ่มบริการสื่อสาร พุ่งขึ้น 3.25% ขณะที่หุ้นกลุ่มพลังงนและอุตสาหกรรมปรับตัวลง 0.5% และ 0.17% ตามลำดับ
ตลาดได้รับปัจจัยหนุนจากการเปิดเผยผลประกอบการที่แข็งแกร่งของบริษัทจดทะเบียน
หุ้นอัลฟาเบท อิงค์ ซึ่งเป็นบริษัทแม่ของกูเกิล พุ่งขึ้น 9.62% หลังบริษัทเปิดเผยว่า กำไรสุทธิในไตรมาส 2/2562 อยู่ที่ระดับ 9.95 พันล้านดอลลาร์ หรือ 14.21 ดอลลาร์/หุ้น ซึ่งเพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับไตรมาส 2/2561 ซึ่งอยู่ที่ระดับ 4.54 ดอลลาร์/หุ้น และสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ที่ 11.10 ดอลลาร์/หุ้น
หุ้นทวิตเตอร์ ทะยานขึ้น 8.98% หลังบริษัทรายงานผลกำไรในไตรมาส 2/2562 ที่ 1.1 พันล้านดอลลาร์หรือ 1.43 ดอลลาร์ต่อหุ้น โดยพุ่งขึ้นอย่างมาก เมื่อเทียบกับระดับ 100 ล้านดอลลาร์ หรือ 13 เซนต์ต่อหุ้นในปีที่ผ่านมา โดยผลกำไรของทวิตเตอร์ได้แรงหนุนจากผลประโยชน์ทางด้านภาษีกว่า 1 พันล้านดอลลาร์ที่เกี่ยวกับการปรับโครงสร้างบริษัท
ส่วนรายได้ของทวิตเตอร์เพิ่มขึ้น 18% จากปีก่อน สู่ระดับ 841 ล้านดอลลาร์ สูงกว่าที่ตลาดวอลล์สตรีทคาดไว้ที่ 829 ล้านดอลลาร์
หุ้นสตาร์บัคส์ พุ่งขึ้น 8.94% หลังบริษัทปรับเพิ่มประมาณการผลกำไรและรายได้ของปีนี้สูงขึ้น หลังจากที่ยอดขายในสหรัฐและจีนเพิ่มขึ้น
ข้อมูลจาก FactSet บ่งชี้ว่า บริษัท 40% ในดัชนี S&P 500 รายงานผลประกอบการรายไตรมาสออกมาแล้ว โดย 76.4% รายงานผลประกอบการที่แข็งแกร่งเกินคาด
นอกจากนี้ ตลาดยังได้แรงหนุน หลังจากกระทรวงยุติธรรมสหรัฐ ประกาศอนุมัติแผนควบรวมกิจการระหว่างบริษัทที-โมบาย ยูเอส อิงค์ กับสปรินท์ คอร์ป โดยมีเงื่อนไขให้ทั้งสองบริษัทขายธุรกิจเติมเงินของสปรินท์ รวมถึง Boost Mobile ให้แก่บริษัทดิช เน็ตเวิร์ก คอร์ป
สำหรับข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐที่มีการเปิดเผยเมื่อคืนนี้ กระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ประจำไตรมาส 2/2562 ขยายตัวที่ระดับ 2.1% เมื่อเทียบเป็นรายปี โดยชะลอตัวลงจากระดับ 3.1% ในไตรมาส 1/2562 แต่ชะลอตัวลงน้อยกว่าที่บรรดานักเศรษฐศาสตร์คาดไว้ที่ระดับ 1.9%