ตลาดหุ้นยุโรปปิดปรับตัวขึ้นเมื่อคืนนี้ (29 ก.ค.) เนื่องจากนักลงทุนพากันเข้าซื้อหุ้นอังกฤษ ขณะที่เงินปอนด์อ่อนค่าลง และข่าวเกี่ยวกับการควบกิจการช่วยหนุนตลาดด้วย
ดัชนี Stoxx Europe 600 บวก 0.03% ปิดที่ 390.85 จุด
ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,686.61 จุด เพิ่มขึ้น 137.55 จุด หรือ +1.82% ขณะที่ ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 5,601.10 จุด ลดลง 8.94 จุด หรือ -0.16% และ ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมันปิดที่ 12,417.47 จุด ลดลง 2.43 จุด หรือ -0.02%
ตลาดหุ้นยุโรปได้แรงหนุนจากการที่ตลาดหุ้นอังกฤษปรับตัวขึ้นมากที่สุดนับตั้งแต่วันที่ 5 ก.พ.ที่ผ่านมา ขณะที่เงินปอนด์ร่วงลงจากความวิตกว่าอังกฤษจะถอนตัวออกจากสหภาพยุโรป (Brexit) แบบไร้ข้อตกลง
รายงานข่าวที่ว่า นายบอริส จอห์นสัน นายกรัฐมนตรีอังกฤษไม่ได้วางแผนที่จะประชุมกับผู้นำสหภาพยุโรป (EU) นอกเสียจากว่า EU เต็มใจที่จะแก้ไขข้อตกลงการถอนตัวนั้น ดูเหมือนจะเร่งให้ปอนด์ร่วงลงเร็วขึ้น และได้ช่วยหนุนตลาดหุ้นอังกฤษปรับตัวขึ้น
ข่าวการเจรจาควบกิจการระหว่างบริษัทจัสต์ อีต และบริษัทเทคอะเวย์.คอม ช่วยหนุนตลาดด้วย โดยหุ้นจัสต์ อีต พุ่ง 23.98% ส่วนหุ้นเทคอะเวย์.คอม ลบ 0.48%
หุ้นตลาดหลักทรัพย์ลอนดอน (LSE) พุ่งขึ้น 15.34% หลังยืนยันการเจรจาทำข้อตกลง 2.7 หมื่นล้านดอลลาร์เพื่อซื้อกิจการรีฟินิทิฟจากแบล็คสโตนและทอมสัน รอยเตอร์
หุ้นโวดาโฟน บวก 4.27% โดยยังคงปรับตัวขึ้น หลังประกาศว่าบริษัทอาจขายธุรกิจหอสัญญาณในยุโรป