ภาวะตลาดหุ้นนิวยอร์กดาวโจนส์ปิดร่วง 280.85 จุด หลัง"ทรัมป์"ขู่รีดภาษีจีนอีก 3 แสนล้านดอลล์

ข่าวหุ้น-การเงิน Friday August 2, 2019 06:54 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดร่วงลงเมื่อคืนนี้ (1 ส.ค.) หลังจากประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ขู่ว่าจะเรียกเก็บภาษีนำเข้าสินค้าจากจีนเพิ่มขึ้นอีก 3 แสนล้านดอลลาร์ โดยความวิตกกังวลเกี่ยวกับสงครามการค้าที่ยืดเยื้อระหว่างสหรัฐและจีนได้ฉุดหุ้นกลุ่มอุตสาหกรรมซึ่งเป็นหุ้นที่มีความอ่อนไหวต่อประเด็นการค้าระหว่างประเทศ ขณะที่หุ้นกลุ่มพลังงานร่วงลงหลังจากราคาน้ำมันดิบ WTI ร่วงลงเกือบ 8%

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 26,583.42 จุด ร่วงลง 280.85 จุด หรือ -1.05% ขณะดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,953.56 จุด ลดลง 26.82 จุด หรือ -0.90% และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 8,111.12 จุด ลดลง 64.30 จุด หรือ -0.79%

ตลาดหุ้นนิวยอร์กร่วงลงทันทีหลังจากปธน.ทรัมป์ทวีตข้อความเมื่อวานนี้ว่า สหรัฐจะเรียกเก็บภาษีสินค้านำเข้าจากจีนเพิ่มขึ้นอีก 10% คิดเป็นมูลค่า 3 แสนล้านดอลลาร์ โดยมีผลบังคับใช้ในวันที่ 1 ก.ย.

ข้อความบนทวิตเตอร์ของปธน.ทรัมป์ระบุว่า "เจ้าหน้าที่ของเราเพิ่งกลับมาจากจีน หลังจากที่ได้เจรจาอย่างสร้างสรรค์เพื่อทำข้อตกลงการค้าในอนาคต เราคิดว่าเราสามารถทำข้อตกลงการค้ากับจีนได้เมื่อ 3 เดือนก่อน แต่เป็นที่น่าเสียใจที่ว่า จีนได้ตัดสินใจที่จะทำการเจรจาใหม่ ก่อนที่จะมีการลงนาม และเมื่อไม่นานมานี้ จีนตกลงที่จะซื้อสินค้าเกษตรจำนวนมากจากสหรัฐ แต่ก็ไม่ได้ทำเช่นนั้น นอกจากนี้ ท่านประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ได้พูดว่า เขาจะยุติการจำหน่ายยา Fentanyl ให้แก่สหรัฐ แต่สิ่งนี้ไม่เคยเกิดขึ้น ทำให้ชาวอเมริกันจำนวนมากยังคงล้มตาย"

ทั้งนี้ ความเคลื่อนไหวของปธน.ทรัมป์ส่งผลให้ดัชนีดาวโจนส์พลิกกลับมาสู่แดนลบทันที หลังจากที่ดัชนีเคลื่อนไหวในแดนบวกก่อนหน้านี้ อันเนื่องมาจากกระแสคาดการณ์ที่ว่าธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยอีกในเดือนหน้า หลังจากสถาบันจัดการด้านอุปทานของสหรัฐ (ISM) และไอเอชเอส มาร์กิต เปิดเผยข้อมูลที่สอดคล้องกันว่า ดัชนีภาคการผลิตของสหรัฐร่วงลงในเดือนก.ค.

ความวิตกกังวลเกี่ยวกับผลกระทบของสงครามการค้าได้ฉุดหุ้นกลุ่มอุตสาหกรรมร่วงลง โดยหุ้นโบอิ้ง ร่วงลง 2.04% หุ้นแคทเธอร์พิลลาร์ ดิ่งลง 3.8% หุ้นยูไนเต็ด เทคโนโลยีส์ ลดลง 1.3% หุ้นอีตัน คอร์ป ร่วงลง 2.7% หุ้น 3M ลดลง 0.8% หุ้นเจเนอรัล อิเล็กทริก (GE) ร่วงลง 3.5% หุ้นเอเมอร์สัน อิเล็กทริก ดิ่งลง 3.3%

หุ้นกลุ่มพลังงานร่วงลง หลังจากราคาน้ำมันดิบ WTI ดิ่งลงเกือบ 8% เมื่อคืนนี้ ท่ามกลางความวิตกกังวลที่ว่า สงครามการค้าระหว่างสหรัฐและจีนจะส่งผลกระทบต่ออุปสงค์พลังงาน โดยหุ้นเอ็กซอนโมบิล ร่วงลง 2.5% หุ้นเชฟรอน ดิ่งลง 2% หุ้นเชซาพีค เอนเนอร์จี ทรุดฮวบลง 8.8% หุ้นเดวอน เอนเนอร์จี ร่วงลง 6.8% หุ้นมาราธอน ปิโตรเลียม ลดลง 1.8% หุ้นฮัลลิเบอร์ตัน ดิ่งลง 5.8%

หุ้นกลุ่มธนาคารร่วงลงเนื่องจากความกังวลที่ว่า การปรับลดอัตราดอกเบี้ยของเฟดอาจส่งผลกระทบต่อกำไรของภาคธนาคาร โดยหุ้นโกลด์แมน แซคส์ ร่วงลง 3.9% หุ้นแบงก์ ออฟ อเมริกา ร่วงลง 3.8% หุ้นซิตี้กรุ๊ปดิ่งลง 4% หุ้นมอร์แกน สแตนลีย์ ร่วงลง 3.6% หุ้นเวลส์ ฟาร์โก ลดลง 2.8% หุ้นเจพีมอร์แกน เชส ร่วงลง 2.5%

หุ้นของบริษัทรายใหญ่ที่เข้าไปลงทุนจำนวนมากในประเทศจีนร่วงลงเช่นกัน ซึ่งรวมถึงหุ้นไนกี้ ร่วงลง 3.4% หุ้นเฟดเอ็กซ์ ดิ่งลง 4.2% และหุ้นแอปเปิล ร่วงลง 2.1%

สำหรับข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐที่มีการเปิดเผยเมื่อคืนนี้ สถาบันจัดการด้านอุปทานของสหรัฐ (ISM) ระบุว่า ดัชนีภาคการผลิตของสหรัฐลดลงสู่ระดับ 51.2 ในเดือนก.ค. จากระดับ 51.7 ในเดือนมิ.ย. ขณะที่ไอเอชเอส มาร์กิต เปิดเผยว่า ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตของสหรัฐ ปรับตัวลงสู่ระดับ 50.4 ในเดือนก.ค. ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนก.ย.2552 จากระดับ 50.6 ในเดือนมิ.ย.

ทางด้านกระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่า จำนวนชาวอเมริกันที่ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรกเพิ่มขึ้น 8,000 ราย สู่ระดับ 215,000 รายในสัปดาห์ที่แล้ว ขณะที่กระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยว่า การใช้จ่ายภาคการก่อสร้างของสหรัฐดิ่งลง 1.3% ในเดือนมิ.ย. ซึ่งเป็นการปรับตัวลงมากที่สุดนับตั้งแต่เดือนพ.ย.ปีที่แล้ว

นักลงทุนจับตาตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรประจำเดือนก.ค.ของสหรัฐซึ่งกระทรวงแรงงานสหรัฐมีกำหนดเปิดเผยในวันนี้ เวลา 19.30 น.ตามเวลาไทย ขณะที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่า ตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรจะเพิ่มขึ้น 165,000 ตำแหน่ง และคาดว่าอัตราการว่างงานจะลดลงสู่ระดับ 3.6% ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดในรอบ 50 ปี


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ