ตลาดหุ้นยุโรปปิดร่วงลงอย่างหนักเมื่อคืนนี้ (5 ส.ค.) โดยถูกกดดันจากความวิตกเกี่ยวกับความตึงเครียดทางการค้าที่ลุกลามระหว่างสหรัฐและจีน หลังสหรัฐขู่ที่จะเก็บภาษีนำเข้าสินค้าจีนอีก 10% และจีนระบุว่าจะทำการตอบโต้ นอกจากนี้ การเปิดเผยข้อมูลภาคบริการของเยอรมนีที่ชะลอการขยายตัวในเดือนก.ค. ส่งผลถ่วงตลาดลงด้วย
ดัชนี Stoxx Europe 600 ร่วงลง 2.31% ปิดที่ 369.43 จุด
ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 5,241.55 จุด ร่วงลง 117.44 จุด หรือ -2.19% ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมันปิดที่ 11,658.51 จุด ลดลง 213.93 จุด หรือ -1.80% และ ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,223.85 จุด ดิ่งลง 183.21 จุด หรือ -2.47%
ตลาดปรับตัวลงเนื่องจากนักลงทุนวิตกว่า สหรัฐจะเรียกเก็บภาษีอีก 10% ต่อสินค้านำเข้าจากจีนมูลค่า 3 แสนล้านดอลลาร์ โดยมีผลบังคับใช้ในวันที่ 1 ก.ย. ขณะเดียวกัน สื่อรายงานว่า รัฐบาลจีนได้สั่งให้บริษัทของรัฐระงับการนำเข้าสินค้าเกษตรจากสหรัฐ ถึงแม้จีนได้ทำข้อตกลงกับสหรัฐในเดือนมิ.ย.ในการซื้อสินค้าเกษตรจากสหรัฐก็ตาม
นอกจากนี้ ตลาดยังถูกกดดันหลังไอเอชเอส มาร์กิต ซึ่งเป็นบริษัทให้บริการข้อมูลทางการเงิน เปิดเผยว่า ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคบริการของเยอรมนี ปรับตัวลงสู่ระดับ 54.5 ในเดือนก.ค. จากระดับ 55.8 ในเดือนมิ.ย. ซึ่งเป็นระดับสูงสุดในรอบ 9 เดือน
หุ้นอาดิดาส, หุ้นไบเออร์ และ หุ้นอินฟิเนียน ในตลาดหุ้นเยอรมนี ร่วง 4.15%, 3.74% และ 3.31% ตามลำดับ
หุ้นแดสสอลท์ ซิสเทมส์, หุ้นเอสทีไมโครอิเล็กทรอนิกส์ และ หุ้นหลุยส์ วิตตอง ในตลาดหุ้นฝรั่งเศส ร่วง 4.34%, 4.30% และ 4.23% ตามลำดับ
หุ้นฮาร์กรีฟส์ แลนสดาวน์, หุ้นพรูเดนเชียล และ หุ้นเจดี สปอร์ตส แฟชั่น ในตลาดหุ้นอังกฤษ ร่วง 6.83%, 5.53% และ 5.24% ตามลำดับ