ดัชนีดาวโจนส์พุ่งเกือบ 200 จุดในวันนี้ โดยนักลงทุนคลายความกังวลเกี่ยวกับการที่จีนจะใช้หยวนเป็นเครื่องมือในการทำสงครามการค้ากับสหรัฐ ขณะที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ยังคงเปิดกว้างในการทำข้อตกลงการค้ากับจีน
ณ เวลา 20.35 น.ตามเวลาไทย ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์อยู่ที่ 25,913.14 จุด บวก 195.40 จุด หรือ 0.76%
ดัชนีดาวโจนส์ปิดตลาดวานนี้ทรุดตัวลง 767.27 จุด หรือ 2.90% ทำสถิติปรับตัวลงมากที่สุดในปีนี้ ท่ามกลางความกังวลที่ว่าสงครามการค้าระหว่างสหรัฐและจีนอาจทวีความรุนแรงมากขึ้น หลังจากที่จีนปล่อยให้หยวนอ่อนค่าลงสู่ระดับต่ำสุดในรอบ 11 ปี และประกาศระงับการนำเข้าสินค้าเกษตรจากสหรัฐ เพื่อตอบโต้รัฐบาลสหรัฐที่ขู่เรียกเก็บภาษีสินค้านำเข้าจากจีนเพิ่มอีก 3 แสนล้านดอลลาร์
อย่างไรก็ดี นักลงทุนเริ่มคลายความกังวลเกี่ยวกับค่าเงินหยวน หลังจากที่ธนาคารกลางจีนกำหนดค่ากลางของหยวนในวันนี้ที่ระดับ 6.9683 เทียบดอลลาร์ ซึ่งสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 6.9736 เทียบดอลลาร์ และช่วยหนุนค่าเงินหยวนในตลาดออฟชอร์ให้แข็งค่าขึ้น
หุ้นโบอิ้งและแคทเธอร์ พิลลาร์ดีดตัวขึ้นในวันนี้ โดยหุ้นของบริษัททั้งสองถือเป็นตัวชี้วัดสภาวะการค้าของสหรัฐ เนื่องจากมีการลงทุนจำนวนมากในต่างประเทศ
นายแลร์รี่ คุดโลว์ หัวหน้าที่ปรึกษาฝ่ายเศรษฐกิจประจำทำเนียบขาว กล่าวว่า เขาเชื่อว่าสหรัฐถือไพ่เหนือกว่าจีนในการเจรจาการค้า เนื่องจากเศรษฐกิจสหรัฐมีความแข็งแกร่งกว่าจีน
"เศรษฐกิจจีนกำลังล่มสลาย โดยจีนไม่ได้เป็นประเทศที่ทรงพลังเหมือนเมื่อ 20 ปีก่อน" นายคุดโลว์กล่าว
นายคุดโลว์กล่าวอีกว่า "ตัวเลขสถิติบ่งชี้ว่าการลงทุน และเศรษฐกิจของจีนกำลังปรับตัวลงอย่างต่อเนื่อง ขณะที่ตัวเลข GDP ของจีน ซึ่งอาจมีการแต่งเติมไปหลายจุด ก็กำลังลดลงเรื่อยๆ ผมคิดว่าจีนกำลังได้รับผลกระทบอย่างมาก โดยมากกว่าที่เราได้รับ"
นายคุดโลว์ยังกล่าวว่า ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ยังคงเปิดกว้างในการทำข้อตกลงการค้ากับจีน ซึ่งจะทำให้สหรัฐใช้ความยืดหยุ่นในการเรียกเก็บภาษีต่อสินค้านำเข้าจากจีน
"ในความเป็นจริงคือ เราต้องการที่จะทำการเจรจา เรากำลังเตรียมการที่จะให้เจ้าหน้าที่ของจีนเดินทางมาที่นี่ในเดือนหน้า โดยสิ่งต่างๆอาจเปลี่ยนแปลงได้โดยขึ้นอยู่กับมาตรการทางภาษี" นายคุดโลว์กล่าว
ทางด้านประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ทวีตข้อความในวันนี้ ระบุว่า เศรษฐกิจสหรัฐอยู่ในสถานะที่แข็งแกร่งอย่างมาก ขณะที่อัตราดอกเบี้ย และโอกาสในการลงทุนกำลังเป็นปัจจัยดึงดูดเม็ดเงินจำนวนมากออกจากจีน
"เม็ดเงินจำนวนมากจากจีนและส่วนอื่นของโลกกำลังหลั่งไหลเข้าสู่สหรัฐ จากปัจจัยความปลอดภัย โอกาสในการลงทุน และอัตราดอกเบี้ย โดยเราอยู่ในสถานะที่แข็งแกร่งอย่างมาก ขณะที่บริษัทจำนวนมากกำลังย้ายเข้ามาในสหรัฐ" ข้อความในทวิตเตอร์ระบุ
ปธน.ทรัมป์ทวีตข้อความดังกล่าว ท่ามกลางการทำสงครามการค้าระหว่างสหรัฐและจีนซึ่งทวีความรุนแรงมากขึ้น โดยปธน.ทรัมป์ขู่ว่า สหรัฐจะเรียกเก็บภาษีอีก 10% ต่อสินค้านำเข้าจากจีนมูลค่า 3 แสนล้านดอลลาร์ โดยมีผลบังคับใช้ในวันที่ 1 ก.ย. ขณะที่จีนก็ได้ตอบโต้ด้วยการปล่อยให้หยวนอ่อนค่าลงต่ำกว่าระดับ 7 หยวนต่อดอลลาร์ แตะระดับต่ำสุดในรอบ 11 ปี และรัฐบาลจีนยังได้สั่งให้บริษัทของรัฐระงับการนำเข้าสินค้าเกษตรจากสหรัฐ