ภาวะตลาดหุ้นนิวยอร์กดาวโจนส์ปิดลบ 22.45 จุด ขณะ S&P500 ปิดแดนบวกหลังนลท.ช้อนซื้อหุ้น

ข่าวหุ้น-การเงิน Thursday August 8, 2019 06:50 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดลบเมื่อคืนนี้ (7 ส.ค.) เนื่องจากนักลงทุนยังคงวิตกกังวลเกี่ยวกับผลกระทบของสงครามการค้าระหว่างสหรัฐและจีน อย่างไรก็ดี ดัชนีดาวโจนส์ปิดขยับลงเพียงเล็กน้อย ขณะที่ดัชนี S&P500 และ Nasdaq ดีดตัวขึ้นปิดในแดนบวก หลังจากนักลงทุนเข้าช้อนซื้อหุ้นที่ร่วงลงอย่างหนักในระหว่างวัน และจากการที่อัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐดีดตัวขึ้นในช่วงท้ายของการซื้อขาย หลังจากที่ร่วงลงอย่างหนักในช่วงแรกและเป็นเหตุให้นักลงทุนวิตกกังวลเกี่ยวกับภาวะเศรษฐกิจถดถอย

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 26,007.07 จุด ลดลง 22.45 จุด หรือ -0.09% ขณะที่ดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,883.98 จุด เพิ่มขึ้น 2.21 จุด หรือ +0.08% และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 7,862.83 จุด เพิ่มขึ้น 29.56 จุด หรือ +0.38%

ความวิตกกังวลที่ว่าสงครามการค้าระหว่างสหรัฐและจีนอาจทำให้เศรษฐกิจโลกเข้าสู่ภาวะถดถอย ได้ส่งผลให้นักลงทุนแห่เข้าซื้อพันธบัตรซึ่งเป็นสินทรัพย์ที่ปลอดภัย จนทำให้อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 10 ปีและ 30 ปี ดิ่งลงแตะระดับต่ำสุดนับตั้งแต่ปี 2559 เมื่อเวลาประมาณ 20.34 น.ตามเวลาไทย

อย่างไรก็ดี อัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐดีดตัวขึ้นในช่วงท้ายของการซื้อขาย ซึ่งช่วยให้ดัชนีดาวโจนส์ลดช่วงลบ และยังเป็นปัจจัยหนุนดัชนี S&P500 และ Nasdaq ดีดตัวขึ้นปิดในแดนบวก นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับแรงหนุนจากการที่นักลงทุนเข้าช้อนซื้อหุ้นที่ร่วงลงอย่างหนักในระหว่างวัน

หุ้นกลุ่มธนาคารร่วงลงหนักสุดเมื่อคืนนี้ เนื่องจากหุ้นกลุ่มดังกล่าวจะได้รับผลกระทบโดยตรงจากการปรับตัวลงของอัตราดอกเบี้ย โดยหุ้นมอร์แกน สแตนลีย์ ร่วงลง 1.6% หุ้นเวลส์ ฟาร์โก ดิ่งลง 2.4% หุ้นเจพีมอร์แกน เชส ร่วงลง 2.17% หุ้นซิตี้กรุ๊ป ลดลง 1.7% หุ้นแบงก์ ออฟ อเมริกา ร่วงลง 1.8% และหุ้นโกลด์แมน แซคส์ ขยับลง 0.1%

หุ้นกลุ่มพลังงานปรับตัวลงหลังจากราคาน้ำมันดิบ WTI ดิ่งลงอย่างหนักเมื่อคืนนี้ อันเนื่องมาจากสต็อกน้ำมันดิบที่พุ่งขึ้นสวนทางกับตัวเลขคาดการณ์ โดยหุ้นมาราธอน ปิโตรเลียม ร่วงลง 2.9% หุ้นฮัลลิเบอร์ตัน ร่วงลง 1.5% หุ้นเอ็กซอนโมบิล ลดลง 0.6% หุ้นเชฟรอน ลดลง 0.2% หุ้นเดวอน เอนเนอร์จี ปรับตัวลง 0.17%

หุ้นกลุ่มสินค้าผู้บริโภคดีดตัวขึ้น โดยหุ้นไทสัน ฟู้ดส์ พุ่งขึ้น 1.4% หุ้นพรอคเตอร์ แอนด์ แกมเบิล (P&G) เพิ่มขึ้น 1.5% หุ้นเป๊ปซี่โค เพิ่มขึ้น 1.05% หุ้นโคคา-โคลา พุ่งขึ้น 1.74% หุ้นฟิลลิป มอร์ริส อินเตอร์เนชั่นแนล เพิ่มขึ้น 0.1%

หุ้นวอลท์ ดิสนีย์ ร่วงลง 5% หลังจากบริษัทเปิดเผยกำไรในไตรมาส 2 ที่ระดับ 1.35 ดอลลาร์/หุ้น และรายได้อยู่ที่ระดับ 2.025 หมื่นล้านดอลลาร์ ซึ่งตัวเลขดังกล่าวต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้

ส่วนหุ้นบริษัทจีนที่จดทะเบียนซื้อขายในตลาดหุ้นนิวยอร์กปรับตัวผันผวนเมื่อคืนนี้ โดยหุ้นไป่ตู้ ลดลง 0.5% หุ้นยัมไชน่า ดิ่งลง 1.39% ขณะที่หุ้นนิว โอเรียลทัล เอดดูเคชัน แอนด์ เทคโนโลยี พุ่งขึ้น 1.6%

นักลงทุนจับตาข้อมูลเศรษฐกิจของสหรัฐที่มีกำหนดเปิดเผยในสัปดาห์นี้ ซึ่งได้แก่ จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์, สต็อกสินค้าคงคลังภาคค้าส่งเดือนมิ.ย. และดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) เดือนก.ค.


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ