ตลาดหุ้นยุโรปปิดปรับตัวขึ้นเมื่อคืนนี้ (13 ส.ค.) โดยได้แรงหนุนจากการที่รัฐบาลสหรัฐประกาศเลื่อนการเรียกเก็บภาษีสินค้านำเข้าจากจีนออกไปเป็นวันที่ 15 ธ.ค.
ดัชนี Stoxx Europe 600 บวก 0.54% ปิดที่ 372.40 จุด
ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 5,363.07 จุด เพิ่มขึ้น 52.77 จุด หรือ +0.99% ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมันปิดที่ 11,750.13 จุด เพิ่มขึ้น 70.45 จุด หรือ +0.60% และ ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,250.90 จุด เพิ่มขึ้น 24.18 จุด หรือ +0.33%
ตลาดดีดตัวขึ้น เนื่องจากนักลงทุนขานรับข่าวที่ว่า สำนักงานผู้แทนการค้าสหรัฐ (USTR) เลื่อนการเรียกเก็บภาษีสินค้าจีน 10% ออกไปเป็นวันที่ 15 ธ.ค. จากเดิมที่มีกำหนดไว้ในวันที่ 1 ก.ย. ซึ่งสินค้าดังกล่าวรวมถึงแล็ปท็อป และโทรศัพท์มือถือ พร้อมกับถอดสินค้าบางประเภทออกจากบัญชีรายการสินค้าของจีนที่จะถูกเรียกเก็บภาษีครั้งใหม่
หุ้นกลุ่มสินค้าโภคภัณฑ์, กลุ่มรถยนต์ และ กลุ่มเทคโนโลยี ปรับตัวขึ้นมากที่สุดขานรับข่าวดังกล่าว
นอกจากนี้ หุ้นกลุ่มพลังงานปรับตัวขึ้นด้วย เนื่องจากความตึงเครียดด้านการค้าที่ลดลง ได้ช่วยหนุนราคาน้ำมัน
หุ้นบวกในตลาดเยอรมนีได้แก่ หุ้นไบเออร์ เพิ่มขึ้น 1.88% และ หุ้นดอยซ์ โพสต์ บวก 1.77%
หุ้นอาร์เซโลมิตตัลในตลาดหุ้นฝรั่งเศส พุ่งขึ้น 5.46% และหุ้นเอสทีไมโครอิเล็กทรอนิกส์ บวก 2.99%
หุ้นแองโกล อเมริกันในตลาดหุ้นอังกฤษ เพิ่มขึ้น 2.56% ขณะที่หุ้นแอนโทฟากัสตา และหุ้นเกล็นคอร์ บวก 2.42% และ 2.30% ตามลำดับ