ตลาดหุ้นลอนดอนปิดลดลงเมื่อคืนนี้ (14 ส.ค.) เนื่องจากนักลงทุนวิตกกับภาวะเศรษฐกิจถดถอย หลังอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลอายุ 10 ปีของสหรัฐและอังกฤษ ลดต่ำกว่าอัตราผลตอบแทนพันธบัตรอายุ 2 ปี เป็นครั้งแรกนับตั้งแต่เกิดวิกฤติการเงินปี 2551
ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,147.88 จุด ลดลง 103.02 จุด หรือ -1.42%
ตลาดปรับตัวลง หลังจากอัตราผลตอบแทนพันธบัตรเกิดภาวะ inverted yield curve เมื่อวานนี้ ซึ่งเป็นภาวะที่อัตราผลตอบแทนพันธบัตรระยะสั้นอยู่สูงกว่าพันธบัตรระยะยาว ซึ่งส่งสัญญาณถึงภาวะเศรษฐกิจถดถอย
นอกจากนี้ ตลาดยังเผชิญแรงกดดันจากการที่จีนและเยอรมนีเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจที่อ่อนแอลงด้วย โดยสำนักงานสถิติแห่งชาติจีน (NBS) เปิดเผยว่า การผลิตภาคอุตสาหกรรมเดือนก.ค.ขยายตัว 4.8% เมื่อเทียบเป็นรายปี ซึ่งเป็นการขยายตัวในอัตราต่ำสุดในรอบ 17 ปี ขณะที่สำนักงานสถิติแห่งชาติเยอรมนีเปิดเผยว่า GDP ไตรมาส 2 หดตัวลง 0.1% เมื่อเทียบเป็นรายไตรมาส ซึ่งเป็นการหดตัวครั้งแรกนับตั้งแต่ไตรมาส 3 ของปี 2561
หุ้นกลุ่มการเงิน และ กลุ่มน้ำมัน ปรับตัวลง โดยหุ้นเอชเอสบีซี ร่วงลง 2.73%, หุ้นสแตนดาร์ด ชาร์เตอร์ด ร่วง 2.38%, หุ้นบีพี ร่วง 2.53% และ หุ้นเชลล์ ลดลง 1.67%